นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เผยเศรษฐกิจไทยชะลอตัวยอดส่งออกหด

นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยถึงยอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในปีนี้ว่า จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลางที่ได้รับผลกระทบทั้งราคาน้ำมันดิบลดลง ปัญหาการเมือง ทำให้การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับผลกระทบ ภาพรวมปีนี้คงส่งออกไม่ขยายตัว โดยมีมูลค่าประมาณ 570,000 ล้านบาท

สำหรับปี 2560 ทางกระทรวงพาณิชย์ได้หารือและขอให้ตั้งเป้าขยายตัวประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ภาพรวมจากการประเมินทั้งหมดน่าจะขยายตัวได้เพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันทางด้านประเทศคู่ค้าได้ฝากเน้นถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทย ให้คำนึงถึงการลดภาวะโลกร้อน ใช้เรื่องการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกำหนดซึ่งทางกลุ่มชิ้นส่วนเน้นปรับปรุงให้ความสำคัญเรื่องนี้มาตลอด เช่น ดำเนินการมาตรฐานไอเอสโอ14000 และอื่น ๆ

นางอัชณา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตลาดในประเทศก็ยอมรับว่าเศรษฐกิจเช่นนี้ผู้ประกอบการชิ้นส่วนได้รับผลกระทบทั้งตลาดทดแทนและจำหน่ายรถยนต์สำเร็จรูป ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการคาดหวังว่าการจำหน่ายรถยนต์จะเป็นไปตามที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ประเมินไว้ คือ จำหน่ายในประเทศ  750,000-780,000 คัน และส่งออก 1.2 ล้านคัน

“จากภาวะการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกชะลอตัวทางกลุ่มชิ้นส่วนเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรเร่งรัดเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี เพราะจะกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วน  814 บริษัท แรงงานที่มีประมาณ 300,000 คน เนื่องจากจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนมาใช้ทั้งการผลิตรถยนต์ ผลิตสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่ง ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประเมินว่าต้องลงทุนประมาณ   400,000 บาทต่อสถานี นอกจากนี้ ต้องนำเข้าแบตเตอรี่ที่มีราคาสูง โดยรวมแล้วนอกจากจะกระทบผู้ผลิตชิ้นส่วนแล้วยังต้องนำเข้าชิ้นส่วนเพิ่ม จากขณะนี้มีมูลค่าการนำเข้าชิ้นส่วนอยู่ที่ 480,000 ล้านบาท”

เร็วเกินไปหากจะส่งเสริมอีวีเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนทันทีควรจะค่อยๆพัฒนาเพื่อให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและตลาดปรับตัว เช่น พัฒนาเป็นรถไฮบริดก่อน ขณะที่รถอีวีก็น่าจะเริ่มจากรถบัสหรือมอเตอร์ไซค์หากต้องการนำร่องเพื่อลดมลพิษ นางอัชณากล่าว