นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจงานอ้อยกลุ่มมิตรผลเปิดเผยถึงแผนการลงทุนในประเทศ 5 ปี ระยะปี 2560-2564 ว่า หลังได้รับใบอนุญาตตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล หรือ สอน. และได้ใบอนุญาตตั้งโรงงานแล้ว บริษัทได้เตรียมเงินลงทุน 20,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานน้ำตาล 4 จังหวัด กระจายตามจังหวัดในภาคอีสานคือ จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดชัยภูมิ ลงทุนแห่งละประมาณ 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 1,000ไร่ กำลังการผลิต 20,000 ตันต่อวันต่อโรง โดยจะใช้พื้นที่ปลูกอ้อย 300,000-400,000 ไร่ต่อโรงงาน และจะเริ่มก่อสร้างภายในปลายปี 2559 หลังจากที่ทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้เสร็จภายใน 2 เดือนจากนี้
ส่วนการลงทุนด้านพลังงานยอมรับว่า ทางบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เข้ามาหารือถึงแผนการลงทุนในส่วนของธุรกิจไอโอเอทานอล แต่ไม่ใช่มิตรผลเพียงรายเดียว เพราะทาง PTG ก็ได้หารือและพยายามหาพาร์ตเนอร์รายอื่นที่เป็นผู้ประกอบการน้ำตาลเช่นกัน ซึ่งมิตรผลจะร่วมลงทุนหรือพาร์ตเนอร์ร่วมกันต้องดูโอกาสของธุรกิจว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด หากสร้างผลกำไรที่ดีได้ในอนาคต มีวัตถุดิบและเทคโนโลยีที่พร้อมก็สนใจที่จะร่วมธุรกิจด้วย
ล่าสุดโรงงานน้ำตาลมิตรผลภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรด้านอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล หรือ Bonsucro เป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการผลิต การจัดระบบนิเวศ การดำเนินงานที่สอดคล้องกับกฎหมาย โดยเฉพาะสิทธิมนุษยชนและแรงงานสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์
ด้านนายกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉายประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงในการประกอบธุรกิจขณะนี้คือเศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลกรวมถึงภัยธรรมชาติส่งผลอย่างมากต่อผลผลิตของอ้อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำตาลที่ออกสู่ตลาด ขณะที่ราคาน้ำตาลถือว่าเป็นวัฏจักรที่ขึ้นลงผันผวน โดยขณะนี้ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์กเดือน ตุลาคมปี 2559 ขยับมาอยู่ที่อยู่ที่ 19.91 เซนต์ต่อปอนด์ ปรับขึ้นจากต้นปีที่ประมาณ 14 เซนต์ต่อปอนด์
นอกจากนี้ เทรนด์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่หันมาสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้เอทานอลลดลง บริษัทจึงปรับแผนเพื่อรับมือในช่วงระยะ 5-10 ปี จากผลิตเอทานอล เปลี่ยนมาเป็นยูทานอล ใช้เป็นส่วนผสมผลิตภัณฑ์พลาสติกจำพวกขวดต่างๆ รวมถึงการขยายสัดส่วนไปสู่การผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อขาย ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนผลิตภัณฑ์ของเอทานอลจะอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์