สถาปนาครบรอบ 49 ปี มมส. ติดโผมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศ ชูปณิธาร “บูรณาการความรู้จากท้องถิ่นสู่สากล”
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. สถาปนาขึ้นเมื่อ 27 มีนาคม 2511 แยกตัวจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคามมีศูนย์กลางการบริหารงานตั้งอยู่ที่ ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่รวมประมาณกว่า 1,300 ไร่
ปัจจุบันเปิดดำเนินการเรียนการสอนครบรอบ 49 ปี โดยมีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา 49 ปี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นิสิต และนักเรียน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร และทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในงานวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อความเป็นสิริมงคล
ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้จัดแถลงโชว์ผลงานวิจัยที่โดดเด่นในปี 2560 ในงานประชุมทางวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ 13 :From Local to Global in the Context of Thailand 4.0 : จากท้องถิ่นสู่สากลในบริบทประเทศไทย 4.0” ว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการใช้งานวิจัยเพื่อขับเคลื่อนสังคมและชุมชน ตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย คือ ผู้มีปัญญา พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชนโดยยึดวิสัยทัศน์ จากท้องถิ่นสู่สากล ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นบูรณาการกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สมัยใหม่ เพื่อนำภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความเป็นสากลในรอบปีที่ผ่านมามีผลงานวิจัยที่โดดเด่นที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน รวมถึงมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ในอนาคต
อธิการบดี กล่าวเพิ่มเติมว่าในแต่ละปี นักวิจัยของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ผลิตผลงานวิจัยที่มีความโดดเด่น ทั้งที่เป็นองค์ความรู้พื้นฐานสำหรับการพัฒนาต่อยอดในอนาคต และงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหาสารคามสามารถนำไปใช้ประโยชน์ และตอบสนองความต้องการของสังคม ชุมชน ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรม เพื่อการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน
สำหรับ10 ผลงานวิจัยเด่นมหาวิทยาลัยมหาสารคามในปี 2560 ได้แก่ 1. เครื่องอบแห้งแบบถังทรงกระบอกหมุนด้วยระบบรังสีอินฟราเรดร่วมกับลมร้อนปล่อยทิ้ง ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จักรมาศ เลาหวณิช คณะวิศวกรรมศาสตร์ 2. หม้อผลิตไอน้ำประสิทธิภาพสูงเพื่อนึ่งก้อนเชื้อเห็ด ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภา แคนสี คณะวิศวกรรมศาสตร์ 3. เครื่องกระเทาะและทำความสะอาดถั่วดาวอินคา ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพรรณ ยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ 4. เคหะภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบศิริ แซ่ลี้ คณะวิทยาการสารสนเทศ 5. การออกแบบแผ่นบันทึกข้อมูลและหัวอ่านข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา จุรีมาศ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรรณวดี จุรีมาศ คณะวิทยาศาสตร์ 6. การผลิตพลาสติกชีวภาพ ผลงานวิจัยของ รองศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง ใบมาก คณะวิทยาศาสตร์ 7. กรรมวิธีการผลิตสารสกัดตรีผลา ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประสบอร รินทอง คณะเภสัชศาสตร์ 8. ผลิตภัณฑ์อาหาร Low-GI ผลงานวิจัยของ รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริธร ศิริอมรพรรณ 9. เซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของโปรตีนไหมและสารสกัดจากถั่งเช่า ผลงานวิจัยของ รศ.ดร.วัลยา สุทธิขำ คณะวิทยาศาสตร์ และ10. การจำแนกพยาธิ diphyllobothriidean อย่างรวดเร็ว ผลงานวิจัยของ รศ. ดร.ต้องจิตร ถันชมนาง และคณะ คณะแพทยศาสตร์
ล่าสุดจากการจัดอันดับ University Ranking by Academic Performance หรือ URAP เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ผลปรากฏว่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม อยู่อันดับที่ 16 ของประเทศไทย อันดับที่ 658 ของเอเชีย และอันดับที่ 1918 ของโลก ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม B จากตัวชี้วัดในการจัดอันดับ URAP 2016-2017 วิเคราะห์ข้อมูลจาก 6 ด้าน ประกอบด้วย Article 15.51 คะแนน, Citation 20.22 คะแนน, Total Documents 9.23 คะแนน, Article Impact Total 14.90 คะแนน, Citation Impact Total 9.99 คะแนน และ International Collaboration (20.30) รวมทั้งหมด 90.14 คะแนน
อย่างไรก็ตาม มมส.ยึดมั่นในปณิธานที่ตั้งไว้โดยมุ่งมั่นในการสั่งสมแสวงหาความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานกับวิทยาการที่เป็นสากลให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญาสามารถพัฒนาตนเองให้เพียบพร้อมด้วยวิชาการ จริยธรรมและคุณธรรม