สู่ปีที่ 14 ร.ฟ.ท. ปลื้มรับรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนปี 67 ชงโครงการ CSR พี่หนูแดงพาน้องนั่งรถไฟไปเปิดโลกกว้าง ปี 2
ก้าวสู่ปีที่ 14 รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ประกาศความสำเร็จรับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดี” ประจําปี 2567 พร้อมเดินแผนจัดโครงการ CSR “พี่หนูแดงพาน้องนั่งรถไฟไปเปิดโลกกว้าง ปี 2” พร้อมจับมือเวียดนามพัฒนาระบบราง เดินหน้าขยายบริการขนส่งทางรางเต็มสูบ ลุยใช้ทุนญี่ปุ่น รุกเทคโนโลยีเสริมศักยภาพ รับนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ขยายผู้โดยสารรถไฟสายสีแดงพุ่ง 50 เปอร์เซ็นต์
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้ารับมอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดี” ประจําปี 2567 (Human Rights Awards 2024) จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม

ทั้งนี้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ตอกย้ำความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมควบคู่กับการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากล โดยยึดมั่นในการนำหลักการเคารพสิทธิมนุษยชนมากำหนดเป็นกลยุทธ์และแนวทางในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ให้เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการ เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาประยุกต์ใช้และสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาบุคลากรทุกคนให้มีความตระหนัก ยึดมั่นการสร้างความยุติธรรมและความเท่าเทียม เพื่อการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ควบคู่กับการสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล รวมทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ผู้ใช้บริการ ชุมชนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า คู่ค้า และกลุ่มเปราะบาง อันจะส่งผลให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการให้บริการขององค์กรได้อย่างปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และมีความเสมอภาค และบริษัทฯจะมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จอย่างยั่งยืน
นายสุเทพ กล่าวถึงแผนดำเนินการปี 2568 ต่อว่า โครงการ “พี่หนูแดงพาน้องนั่งรถไฟไปเปิดโลกกว้าง” ถือเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักเรียนและชุมชนในปี 2566 ที่ผ่านมา และในปี 2568 บริษัทฯ มีความยินดีที่จะสานต่อโครงการดีดีอย่างนี้ให้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 จำนวน 100 คน จากโรงเรียนชุมทางตลิ่งชัน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้ทัศนศึกษาโดยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งจะเริ่มต้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปจนถึงสถานีหลักหก (ม.รังสิต) และเดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ อำเภอคลองห้า จังหวัดปทุมธานี โดยการเดินทางในครั้งนี้ เด็กๆ จะได้เห็นและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ นอกห้องเรียนผ่านการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนระบบรางที่มีมาตรฐานอย่างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และเด็กๆ จะได้สัมผัสการเรียนรู้นอกตำรา ผ่านกิจกรรมที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ซึ่งมีการจัดแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในหลากหลายแง่มุม อาทิ วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ฟิสิกส์ เคมี คณิตศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ และการศึกษาเรื่องราวของร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาของไทยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีแห่งการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ ต่อไป

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม “พี่หนูแดงพาน้องนั่งรถไฟไปเปิดโลกกว้าง ปี 2” ในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม โดยไม่เพียงแต่เป็นผู้ให้บริการขนส่งมวลชนระบบรางที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและโอกาสทางการศึกษาของเยาวชน เพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตต่อไปอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ จะดำเนินกิจการเคียงข้างประชาชน และจะมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง รวมทั้งรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองอย่างยั่งยืนต่อไป
นายสุเทพ กล่าวตอนท้ายว่า รฟท. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับบริษัท HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานและการจัดการระบบรถไฟฟ้า คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบขนส่งในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะด้านการดำเนินงานและการซ่อมบำรุงบริษัท HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 ได้วางแผนที่จะส่งบุคลากรมาฝึกงานและเรียนรู้การดำเนินงานกับ SRTET ในกรุงเทพฯ
นับเป็นการสร้างโอกาสความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อประโยชน์ระยะยาวทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีการวางแผนในอนาคตที่จะพัฒนาความร่วมมือเพิ่มเติมในด้านอื่นๆขณะเดียวกันความร่วมมือทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีนโยบายด้านการซ่อมบำรุง เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและเทคโนโลยี อีกทั้งมีจุดร่วมหลายอย่างที่คล้ายกัน โดยมุ่งเน้นการใช้ทุนจากญี่ปุ่นผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และการใช้ระบบรถไฟฟ้าของฮิตาชิเป็นส่วนสำคัญส่วนความคืบหน้าการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟสายสีแดง ตามนโยบายรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเริ่มต้นเมื่อปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เกินจากที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้นที่คาดว่าจะเพิ่มมากสุด 20 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้บริษัทฯประเมินว่า ภายในปี 2568 จะมีผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟสายสีแดงเพิ่มขึ้นถึง 40,000 คนต่อวัน หรือประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีนี้ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ย 30,000 คนต่อวันซึ่งจากผลสำรวจความคิดเห็นผู้โดยสารที่ดำเนินการโดยนิด้าโพล โดยกลุ่มตัวอย่างประมาณ 2,000 คน พบว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านคุณภาพการบริการ คุณภาพพนักงาน โดยเฉพาะในเรื่องของราคาที่คุ้มค่าอยู่ในระดับสูงราว 90 เปอร์เซ็นต์