สู่ 59 ปี ITD มั่นใจปีนี้ฟันกำไร เดินหน้าประมูลงานใหญ่ ในปท. – ตปท. กวาดงานเพิ่มโชว์ Backlog 2 แสนล้าน

บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้ดำเนินงานธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ รับงานการก่อสร้างตั้งแต่โครงการอาคารขนาดกลาง ประเภท อาคารสำนักงาน โรงแรม โครงการขนาดใหญ่ ประเภทศูนย์การค้า ท่าอากาศยาน รวมถึงรับก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้แก่ ถนน สะพาน ทางรถไฟ ระบบ ทางด่วน รวมถึงโครงการวางท่อขนส่งน้ำมันและก๊าซ งานสร้างเขื่อนและโรงไฟฟ้า ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม ปี 2501 จากผู้เริ่มก่อตั้งบริษัท 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต ชาวไทย และ Mr. Giorgio Berlingieri ชาวอิตาเลียน

การดำเนินงาน 59 ปีที่ผ่านมาบริษัทค่อยๆผ่านอุปสรรคและค่อยๆเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆจนสามารถก้าวขึ้นสู่ผู้นำบริษัทก่อสร้างที่มีผลงานมากมายทั้งในและต่างประเทศ จนปัจจุบันในปีนี้มีมูลค่าโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการหรืองานในมือประมาณ 2 แสนล้านบาท

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ ITD เผยว่าในปีนี้บริษัทจะกลับมามีกำไร จากปีก่อนขาดทุน 109 ล้านบาท เพราะงานที่อยู่ในมือมีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น โดยคาดปีนี้น่าจะสูงขึ้นแตะระดับ 10 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนอยู่ที่ 9.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรายได้ปีนี้น่าจะกลับมาเติบโตเท่าปี 58 ที่ทำได้ 5.2 หมื่นล้านบาท จากปี 59 ที่มีรายได้ 4.8 หมื่นล้านบาท เพราะงานภาครัฐชะลอ

ปัจจุบัน บริษัทมี Backlog ราว 2 แสนล้านบาท แลมีงานรอเซ็นสัญญารวมมูลค่า 2.18 แสนล้านบาท จากงานที่บริษัทเข้าประมูลในราคาต่ำสุด อย่างไรก็ตามบริษัทยังจะเข้าประมูลงานในปีนี้มูลค่ารวมกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นงานที่เลื่อนประมูลมาจากปีก่อน ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รวมทั้ง โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-ระยอง, กรุงเทพ-ชลบุรี ,กรุงเทพ-นครราชสีมา เป็นต้น

ประธานบริหารและกรรมการ ITD กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทต้องการมีรายได้ประจำเข้ามา เพื่อให้รายได้มีเสถียรภาพมากขึ้น จากที่ต้องพึ่งพาธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างเดียว บริษัทจึงได้เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ โครงการเหมืองโปแตช อุดรธานี โครงการเหมืองบ๊อกไซด์ ในสปป.ลาว โครงการบริหารทางด่วนในบังคลาเทศ โครงการท่าเรือน้ำลึกและรถไฟที่โมซัมบิก โครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา แต่ละโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ทำให้ ITD ต้องแบ่งขายหุ้นในแต่ละโครงการออกมาเพื่อหาทุนในการใช้ลงทุนโครงการดังกล่าวข้างต้นด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 3 รายจากจีนที่สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะผู้ซื้อต้องการแน่ใจก่อนว่า ITD จะได้ใบประทานบัตร อย่างไรก็ตามบริษัทจะขายหุ้นออกไปบางส่วนราว 30 เปอร์เซ็นต์ และจะคงถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากปัจจุบันที่ถืออยู่ราว 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะยังต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อบริหารโครงการ ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง

ด้านโครงการเหมืองบ๊อกไซด์ ในสปป.ลาว มูลค่าโครงการ 1 พันล้านเหรียญ บริษัทได้สิทธิสัมปทาน 30 ปี ปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 90% และพันธมิตรท้องถิ่นถือ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยบริษัทมีแผนจะขายหุ้นออกไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าภายใน 2-3 เดือนจะได้ข้อสรุป ทั้งนี้เพื่อหาเงินมาลงทุนในเหมืองดังกล่าว ขณะเดียวกัน ITD ก็จะได้งานก่อสร้าง แบ่งเป็นงาน Civil Work 3.6 หมื่นล้านบาท และงาน mining work 1.1 หมื่นล้านบาท