บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)ในโอกาสเปิดเกมรุกตลาดทาวน์โฮมและบ้านเดียวส่งแบรนด์ Indy, มัณฑนา, Vintage Ville,สู้ศึกปี 61 การันตีคุณภาพบ้านรับรางวัล “โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น 2560” พร้อมเปิดตัว 18โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 3.6 หมื่นล้าน ภายใต้เทคโนโลยี Air Plus บ้านหายใจได้
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล ผู้บริหารบริษัท Land & Houses ออกมาเปิดเผยถึงแผนธุรกิจปี 61ว่า บริษัทเดินหน้าลุยเปิด18 โครงการใหม่ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด มูลค่ารวม 36,300 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตอยู่ที่ 7 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีราคาเฉลี่ย 7.5 ล้านบาท และตั้งงบประมาณลงทุนปีนี้อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อที่ดิน 7,000 ล้านบาท และลงทุนด้านธุรกิจให้เช่าอีก 6,000 ล้านบาท บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปีนี้อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่ตั้งเป้าเอาไว้ 26,000 ล้านบาท และมียอดโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 33,000 ล้านบาท ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า ทางบริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 3,700 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมีสัดส่วนการพัฒนาโครงการประเภทที่อยู่อาศัย ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 68%, ทาวน์เฮ้าส์ 9%, คอนโดมิเนียม 23%เมื่อแบ่งตามสัดส่วนระดับราคา ได้แก่ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท 1%, ราคา 2-4 ล้านบาท 17%, ราคา 4-6 ล้านบาท 21%, ราคา 6-10 ล้านบาท 17%, ราคา 10-25 ล้านบาท 21%,ราคามากกว่า 25 ล้านบาท 23%ตามลำดับ
ส่วน 8 โครงการที่จะเปิดตัวในครึ่งปีแรกนั้น ได้แก่โครงการ The Room สุขุมวิท 38 บนเนื้อที่ 2.3 ไร่ 229 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 14 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท,โครงการThe Room พญาไท บนเนื้อที่2.6 ไร่ 437 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 8.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาทและโครงการThe Ease พระราม 2, Villaggioบางนา, Villaggioอยุธยา, Villaggioเชียงใหม่, มัณฑนา อ่อนนุช-วงแหวน 5, Indy 2 ศรีนครินทร์
โดยในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ คือ The Key เพชรเกษม บนที่ดิน 3.8 ไร่ 621 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 3.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท อีกทั้ง Land & Houses ได้นำเสนอเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าเป็น Application i-Design และ Smart Catalog ประกอบด้วย Application i-Design แอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการออกแบบตกแต่งภายในแต่ละห้องของบ้าน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ลูกค้าสามารถเลือกตกแต่งสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเองทั้งหมด พร้อมทั้งทราบงบประมาณการตกแต่งโดยคร่าวๆ และสามารถเดินเข้าไปในห้องที่ตกแต่งเองได้ด้วยเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) อีกด้วย
อีกทั้งระบบ Smart Catalog พัฒนาการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ผสาน VIDEO 3 มิติพร้อมเสียงบรรยาย โดยลูกค้าสามารถมองผ่าน Smart Catalog นี้ผ่านทาง Smart Device ทั้ง Tablet หรือ Smart Phone แผ่น Smart Catalog จะให้ข้อมูลทั้ง Concept การออกแบบและ Function พิเศษต่างๆ ของแบบบ้านแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แต่ละแบบ สามารถนำกลับไปพิจารณาร่วมกับสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย
นอกจากนี้ในเรื่องของการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านในโครงการ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยระบบ PRO License Plate เทคโนโลยีกล้องสแกนป้ายทะเบียนรถ Visitor ทุกคันที่เข้า-ออก โครงการ สามารถตรวจสอบวัน เวลา และสถานที่ปลายทาง ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทั้งระบบ Face Detection ระบบกล้องตรวจจับใบหน้า ใช้สำหรับคนงาน ที่เข้า-ออกภายในโครงการ โดยระบบสามารถเก็บบันทึกข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมตรวจสอบบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ลง ทะเบียนเป็นคนงาน ทำให้ลูกบ้านมั่นใจได้ ถึงความปลอดภัยภายในโครงการ
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังคิดค้นเทคโนโลยี “Air Plus” เทคโนโลยีที่ช่วยให้บ้านหายใจได้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนอากาศภายในบ้านอยู่ตลอดเวลา สามารถช่วยลดการสะสมความร้อนและความชื้น ได้แบบอัตโนมัติ โดยจะทำงานผ่านระบบอัตโนมัติ ที่เลือกใช้ได้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานไฟฟ้าแบบประหยัด ดังนั้น อากาศใหม่ๆ ที่สดชื่น ก็หมุนเวียนเข้ามาในบ้าน ช่วยให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านสามารถหายใจได้อย่างเต็มปอด