แสนสิริ คว้ารางวัล No.1 Brand Thailand 2019-2020 โตสวนกระแสปรับเป้ายอดขายขยับเป็น 35,000 ลบ.เตรียมเปิด 12 โครงการ มูลค่ารวม 16,900 ลบ.
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของรางวัล No.1 Brand Thailand 2019-2020 นำเสนอแผนโครงการครึ่งปีหลัง เตรียมเปิด 12 โครงการ รวมมูลค่า 16,900 ล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังแสนสิริยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยและสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีควบคู่กัน ภายใต้แนวคิด Made for Life…Made for Everyone โดยให้ความสำคัญกับปรับเปลี่ยนดีไซน์ ฟังก์ชั่น คุณภาพ และบริการ
ขณะที่แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 16,900 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรดักส์ 10 โครงการ มูลค่ารวม 14,300 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยวิเคราะห์จากดีมานด์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ และจากเทรนด์อยู่อาศัยที่คนไทยต้องการมีบ้าน 2 หลัง ทั้งคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเมือง เพื่อการเดินทางทำงานที่สะดวก ขณะที่ยังมีความต้องการบ้านชานเมืองเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีความปลอดภัยมากกว่า ยังรวมถึงการเปลี่ยนไปของพฤติกรรมการใช้ชีวิต ในรูปแบบ Work From Home ที่ทำให้ดีมานด์ของบ้านแนวราบเพิ่มสูงขึ้น
“จากยอดขายโตสวนกระแสครองอันดับหนึ่ง ในตลาดอสังหาฯส่งผลบริษัทให้ต้องมีการปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจาก 29,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ทั้งแนวราบและแนวสูงยังสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทมียอดโอนแล้ว 18,200 ล้านบาท และความมั่นใจใน Secure backlog ในมือที่จ่อคิวโอนแล้วอีก 16,200 ล้านบาท ดังนั้นเป้าหมายการโอนในปีนี้เดิม 33,000 ล้านบาทถูกปรับเป็น 39,000 ล้านบาท เท่ากับว่าบริษัทมีเป้าหมายที่ต้องโอนเพิ่มอีกเพียง 4,600 ล้านบาทเท่านั้น จึงคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่น ในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์แสนสิริ และตอกย้ำการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรก โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมของแสนสิริมียอดขายเป็นอันดับ 1 โดยปิดการขายไปถึง 13 โครงการ มูลค่ารวม 11,600 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง โครงการแนวราบจะเป็น Strategic Flagship ในการรุกตลาด เราจึงได้เตรียมเปิดโครงการแนวราบ อีก 10 โครงการ แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์เศรษฐสิริ 2 โครงการ, บ้านเดี่ยวแบรนด์สราญสิริ 1 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรดักส์ในเซกเมนต์ Medium และ Affordable ที่ได้รับการตอบรับสูง ในแบรนด์ อณาสิริ 4 โครงการ และสิริ เพลส 3 โครงการ
“ในช่วงครึ่งปีหลัง แสนสิริได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจโครงการแนวราบด้วยการยกระดับแนวคิด ปรับและเปลี่ยนด้วยการปฎิวัติ 5 ด้าน ภายใต้ชื่อ Sansiri Housing Evolution บ้านมาตรฐานใหม่ที่เข้าใจและเข้าถึงทุกคน ซึ่งจะนับเป็นอีกครั้งในการเป็นผู้นำที่ก้าวเปลี่ยนและเซ็ตมาตรฐานใหม่ให้กับวงการอสังหาฯ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยว และ Top 3 ในตลาดทาวน์โฮมภายใน 3 ปี ได้แก่ Brand & Product แสนสิริ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในฐานะที่เป็น “แบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้” เราศึกษาและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในทุกเซกเมนต์ ผ่านการเลือก Strategic Location อยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าในทุกระดับ
นอกจากนี้ภายในไตรมาสที่สามสำหรับโครงการที่เตรียมเปิดใหม่ จะมีการพัฒนา Touchless Society เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ให้เกิดขึ้นในวงการอสังหาฯ อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยระบบ Visitor Pass บน Sansiri Home Service Application ซึ่งจะมีการส่ง QR Code เพื่อให้ผู้มาติดต่อสามารถสแกนเข้า-ออกโครงการ ได้ด้วยตัวเองในรูปแบบ E-Stamp รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งคลับเฮาส์, ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ จะมีขนาดใหญ่ โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก แบบ Isolation Design เพิ่มระยะห่างแต่สามารถใช้ชีวิตใกล้กัน มากขึ้น รวมถึงการติดตั้ง Automation Sensor ระบบอัตโนมัติภายในห้องน้ำ เพื่อลดและหลีกเลี่ยงการสัมผัส และเพิ่มพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นต้น
Sansiri Housing Evolution จะเริ่มเห็นในโครงการอณาสิริ ที่จะเปิด 5 โครงการ ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ และครอบคลุมในทุกโครงการตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ พฤติกรรมและ Customer Insight ที่เปลี่ยนไปได้ สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์