บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)ผู้ผลิตและจำหน่ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายแบรนด์ในปัจจุบัน หรือในอดีตคนไทยจะคุ้นเคยกันในนามเต๊กเฮงหยู
จากจุดเริ่มต้นถึงวันนี้นับอายุเข้าสู่ปีที่ 127 ได้ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 603 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้ยื่นแบบแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน(IPO)จำนวนไม่เกิน 603,750,000 หุ้น โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 20.10เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทจำนวนไม่เกิน 506,750,000หุ้น ,หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยOrizonLimitedจำนวนไม่เกิน 67,000,000หุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Y Investment Ltd จำนวนไม่เกิน 30,000,000หุ้น
ตามเอกสารไฟลิ่งระบุถึงวัตถุประสงค์การใช้เงินว่าใช้ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศและการพัฒนาปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า เงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า และการดำเนินธุรกิจภายในของบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
สำหรับแผนการลงทุนริษัทกำหนดโครงการหลักตามแผนกลยุทธ์ 4 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ในเมียนมาคาดว่าจะใช้เงินทุนในระยะ1ราว 2,000 ล้านบาท จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562 ซึ่งในปีนี่จะใช้งบลงทุนราว 569 ล้านบาท และปี 2562 ใช้เงินลงทุนราว 1,431 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมสำหรับระยะที่สองของโครงการดังกล่าว ขึ้นกับอุปสงค์ของตลาดในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัทในเมียนมา
โครงการเปลี่ยนเตาหลอมแก้วใหม่ที่โรงงานผลิตขวดแก้ว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมด 868 ล้านบาท ซึ่งลงทุนไปในปี 2560 เท่ากับ 152 ล้านบาท และในปีนี้ลงทุนอีก 716 ล้านบาท โดยเตาหลอมแก้วใหม่ช่วยให้บริษัทขยายอายุการดำเนินงานโรงงานผลิตออกไปและปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของสายการผลิตให้ดีขึ้น และทำให้สามารถผลิตขวดแก้วน้ำหนักเบาสำหรับบรรจุเครื่องดื่มอันเป็นการใช้วัตถุดิบให้ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยลดต้นทุนการผลิต
โครงการสร้างเตาหลอมแก้วใหม่ที่โรงงานผลิตขวดแก้วในสวนอุตสาหกรรมโรจนะคาดว่าใช้เงินลงทุนทั้งหมด 1,800 ล้านบาท ในช่วงปี2561 และ 2562 เท่ากับ 618 ล้านบาท และ 1,182 ล้านบาทตามลำดับ โดยบริษัทจะปิดเตาหลอมสองเตาในโรงงานสมุทรปราการหลังจากเริ่มดำเนินการเตาหลอมแก้วใหม่นี้ และบริษัทยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
โครงการเพิ่มสายการผลิตสินค้าตราซี-วิตใหม่อีก 44 ล้านขวด/ปีในปี 2561 คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 80 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในปีนี้จะใช้เงินลงทุนเท่ากับ 80 ล้านบาท (โดยส่วนหนึ่งเป็นรายจ่ายฝ่ายทุนที่ยกมาจากปี 60)
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนในปีนี้ที่จะใช้เพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ 206 ล้านบาท และลงทุน 85 ล้านบาทในการใช้เศษแก้วในกระบวนการผลิตขวดแก้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการปรับปรุงที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับโรงงานผลิตและอาคารสำนักงานของบริษัท 248 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุนอื่น ๆ อีก 146 ล้านบาท รวมถึงโรงงานต้นแบบ ที่ใช้ในการทดลองผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และให้ผู้บริโภคทดลองก่อนที่จะมีการผลิตเชิงพาณิชย์
ล่าสุดโอสถสภาโดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เอ็ม-150 เข้ารับรางวัล Thailand’s Most Admired Brand แบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในหมวดอาหารและเครื่องดื่มกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังโดยนายศรัณย์ ลดาวรรษ์ Head of Brand Building M-150 – Energy Drinkเป็นตัวแทนรับมอบรางวัลดังกล่าว ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์
รางวัลดังกล่าวจัดโดยนิตยสาร BrandAge ซึ่งได้ทำการวิจัยและศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของผู้บริโภคอย่างแท้จริง