DTC ส่งต่อ ดุสิตธานีมัลดีฟส์ให้กับ DREIT มูลค่า 2,304 ลบ.
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เดินหน้าปรับโครงสร้างทรัพย์สิน ขายดุสิตธานี มัลดีฟส์ให้กับ DREIT
เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างทรัพย์สินของกลุ่มดุสิตธานี มีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกศักยภาพของแต่ละกลุ่มธุรกิจให้สามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุด ขณะเดียวกันเป็นการจัดหาแหล่งเงินทุนในการขยายกิจการโดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำรายการได้มาจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างทรัพย์สินของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการโรงแรมดุสิตธานีมัลดีฟส์โดยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,304 ล้านบาท
“การขายดุสิตธานี มัลดีฟส์ให้กับ DREIT เป็นไปตามกลยุทธ์การลงทุนและการจัดการโครงสร้างทางการเงินและโครงสร้างทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากเราจะได้กำไรจากการขายเงินลงทุนแล้ว เรายังคงเช่าสินทรัพย์ดังกล่าว เพื่อคงสิทธิในการบริหารโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ทำให้เรายังรับรู้รายได้จากโรงแรมเหมือนเดิมและต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม DTC จะได้รับผลตอบแทนจาก DREIT ในฐานะผู้ถือหน่วยทรัสต์ ส่วนการขยายการลงทุนของ DREIT ในครั้งนี้ ก็จะทำให้กองทรัสต์เติบโตมีสินทรัพย์ที่ดีและน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ขนาดของกองทรัสต์ที่ใหญ่ขึ้น ก็จะทำให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อขายหน่วยทรัสต์มากขึ้นตามไปด้วยซึ่งคาดว่าสภาพคล่องที่ดีขึ้นจะช่วยให้ราคาในตลาดของหน่วยทรัสต์ซื้อขายใกล้เคียงกับราคาที่เหมาะสมของหน่วยทรัสต์มากขึ้น
ทั้งนี้ ในการเข้าซื้อกิจการโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ทาง DREIT มีแผนจะออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ใหม่จำนวนไม่เกิน 365 ล้านหน่วย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งเงินลงทุน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทฯจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของ DREIT ตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ซึ่งจะทำให้ดุสิตธานีรักษาสัดส่วนการลงทุนใน DREIT ต่อไป ซึ่งจะทำให้ DTC ได้รับผลตอบแทนจาก DREIT ในรูปแบบเงินปันผลซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อการเป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายการลงทุนต่อไป
อวานี ผนึก โนว่าแลนด์ เปิดโรงแรม 3 แห่ง ต่อยอดเครือ “อวานี” ในประเทศเวียดนาม
บริษัท ไมเนอร์ โฮเทล กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ โนว่าแลนด์ กรุ๊ป เซ็นสัญญาร่วมพัฒนาสามโรงแรมแห่งใหม่ เตรียมเปิดโรงแรมสไตล์โมเดิร์นในเวียดนามเพิ่ม 3 แห่ง ที่เมืองหวุงเต่า-คัมรัน-โฮจิมนห์
นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ บริษัทผู้เป็นเจ้าของเครือ อวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับ โนว่าแลนด์ กรุ๊ป บริษัทประเทศเวียดนาม เซ็นสัญญาร่วมพัฒนาสามโรงแรมแห่งใหม่ในโฮจิมินห์ หวุงเต่า และคัมรัน ต่อยอดโรงแรมสองแห่งในเครืออวานีที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว คือ อวานี กวีเญิน รีสอร์ท และอวานี ไฮฟอง ฮาร์เบอร์ วิว
โฮจิมินห์ หวุงเต่า เป็นเมืองชายทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด เดินทางจากโฮจิมินห์ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง มีจำนวนห้องพัก 149 ห้อง ที่หันหน้าออกสู่ทะเลและเทือกเขา สามารถรองรับการจัดประชุมนานาชาติได้อีกด้วย โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้
ขณะที่ อวานี คัมรัน รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์ มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปลายปี 2565 ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางภาคกลางตอนใต้ตรงข้ามกับแหล่งท่องเที่ยวของญาจาง จะเปิดให้บริการห้องพักและห้องสวีทจำนวน 300 ห้อง และพูลวิลล่าส่วนตัวอีก 350 ห้อง พร้อมห้องจัดประชุมขนาดกว่า 1,200 ตารางเมตร และพื้นที่จัดเลี้ยงสำหรับจัดงานอีเวนท์ด้านหน้าชายหาด
สำหรับ อวานี ไซ่ง่อน ตั้งอยู่ในเขตประวัติศาสตร์ของนครโฮจิมินห์รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลผสมผสานด้วยสไตล์โมเดิร์น ใกล้สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ตเพียง 30 นาทีโดยรถยนต์ มีทำเลอยู่บนถนนที่ขนาบข้างด้วยคาเฟ่และร้านกาแฟมากมาย และ โรงแรมแห่งนี้จะให้บริการห้องพักจำนวน 217 ห้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแบบผสมสูง 38 ชั้น พร้อมสรรพด้วยร้านค้าปลีก และที่อยู่อาศัย แขกผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน และบริการสปาจากอวานีสปา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2564
“การพัฒนาโครงการในเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีพลวัตทางเศรษฐกิจและมีศักยภาพในการเติบโตสูงในด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากทั้งวัฒนธรรมอันน่าดึงดูดและธรรมชาติที่ยังคงความงดงาม โดยเรามีความมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนธุรกิจในเวียดนามไปพร้อมกับโนว่าแลนด์ กรุ๊ป เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับแขกผู้มาเยือน”
ปัจจุบันอวานีมีโรงแรมและรีสอร์ทรวมจำนวน 24 แห่ง ใน 15 ประเทศ และล่าสุดได้เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และลาว นอกจากนั้นยังมีโครงการซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาในจุดหมายปลายทางใหม่ๆ อีก 15 แห่ง อาทิ โรงแรมแห่งใหม่ในโคตาคินาบาลู ดูไบ โรงแรมแห่งที่สองในปูซาน เกาหลีใต้อีกด้วย