ก้าวสู่ 62 ปี MEA กวาด 2 รางวัลในงาน “Asia Sustainability Reporting Awards (ASRA) 2019” เร่งวางระบบสร้างเมืองอัจฉริยะแบบ Smart Eco นำร่องอาคารวัฒนวิภาส
การไฟฟ้านครหลวง (MEA)เข้ารับ 2 รางวัลใหญ่ในงานประกาศรางวัล Asia Sustainability Reporting Awards(ASRA)2019 ประกอบด้วย Asia’s Best Sustainability Report (Public Sector) ระดับ Gold ที่มอบให้แก่องค์กรภาครัฐที่รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับเอเชีย และ รางวัล Asia’s Best SDG Reporting ระดับ Gold
รางวัลดังกล่าวมอบให้แก่องค์กรที่รายงานการดำเนินงานซึ่งสะท้อนการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติยอดเยี่ยมระดับเอเชีย ถือเป็นรางวัลที่สำคัญในระดับเอเซียตอกย้ำว่า MEA เป็นองค์กรที่มีการพัฒนาและบริหารงานอย่างยั่งยืนตามหลักการสากลของ GRI
สำหรับรางวัล Asia Sustainability Reporting Awards (ASRA) เป็นรางวัลระดับภูมิภาคของเอเชีย จัดขึ้นทุกปี โดยองค์กร CSR Works International Pte Ltd และ The British High Commissioner เพื่อยกย่องแนวปฏิบัติที่ดีของการพัฒนาความยั่งยืนผ่านกระบวนการจัดทำและรายงานผล ซึ่งพิจารณาตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีการพิจาณาคัดเลือกในรอบต่างๆ เพื่อคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทรางวัล โดยปี 2562 เป็นปีแรกที่ MEA ได้ส่งรายงานความยั่งยืนเข้าร่วมการประกวด
ล่าสุดการไฟฟ้านครหลวงร่วมกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อพัฒนาพื้นที่ภายใต้โครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ รามอินทรา โดยการสร้างเมืองอัจฉริยะแบบ Smart Eco นำนวัตกรรมใหม่ประยุกต์ใช้หนุนพลังงานทดแทน วางระบบการบริหารจัดการพลังงานอย่างคุ้มค่า ร่วมนำร่องการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ในกรุงเทพฯ ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA มุ่งมั่นขับเคลื่อนระบบพลังงานอัจฉริยะเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ให้มีระบบไฟฟ้าที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ไปพร้อม ๆ กับการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับ MEA มีส่วนช่วยสนับสนุนข้อมูลด้านระบบไฟฟ้าและข้อแนะนำทางเทคนิคเพื่อการบริหารจัดการพลังงานคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพทั้งภายในห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง การติดตั้งระบบสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าและลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการใช้พลังงานทดแทนร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไฟฟ้า ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีในการผลักดันเมืองต้นแบบอัจฉริยะในด้าน Smart Eco ให้เป็นจริง และต่อยอดสู่การพัฒนาโครงการอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต
โครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ รามอินทรา เป็นโครงการเมืองอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond A Living Platform ประกอบด้วย 5 แกนสมาร์ท ได้แก่ 1.Smart Tech นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเอื้อต่อการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ 2.Smart Eco สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย ผ่านการบริหารจัดการพลังงานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย สร้างสังคมแห่งพลังงานทดแทน ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า 3.Smart Community สร้างอาณาจักรมิกซ์ยูสพร้อมบริการครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งการเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพสายพันธุ์ใหม่ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ 4.Smart Security เพียบพร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่มอบความอุ่นใจในการใช้ชีวิต 5.Smart Wellness นำนวัตกรรมอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการสุขภาพ รับทราบข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สร้างสมดุลชีวิต
ทั้งนี้ตัวโครงการเริ่มก่อสร้างเฟสแรก ซึ่งประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 8 อาคาร ส่วนเฟสสองและเฟสสามอยู่ในระหว่างช่วงพัฒนาเมื่อไตรมาส 4/2562 คาดว่าเฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส1/2564
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ รามอินทรา แลนด์มาร์คใหม่ที่ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ คอมมูนิตี้ มอลล์ ฯลฯ บนพื้นที่ประมาณ 13 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทได้จับมือกับการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบเมืองอัจฉริยะในพื้นที่โครงการ ให้ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะหรือ Smart Eco
ทั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาและนำระบบต่างๆ เข้ามาใช้ในพื้นที่โครงการ อาทิ ระบบการจัดการพลังงานภายในอาคารระบบการจัดการพลังงานภายในที่อยู่อาศัยการทำระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน การใช้ระบบกักเก็บไฟฟ้าร่วมกับพลังงานทดแทน เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในโครงการ ทั้งภายในที่อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนอาคารต่าง ๆ มีการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด