นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ.เปิดถึงการได้รับรางวัลอันทรงเกียรติว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัล AFEO Award and Fellowship 2016 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลและหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์แก่วงการวิศวกรรม ในประเภทรางวัลAFEO Honorary Fellow Award จากสหพันธ์วิศวกรรมสถานแห่งอาเซียน หรือ ASEAN Federation of Engineering Organizations
“ รางวัลที่ได้รับถือเป็นกำลังใจที่สำคัญยิ่งในการผลักดันการบริหารงานให้ กปภ.ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ตามวิสัยทัศน์ของ กปภ. ผู้ใช้น้ำประทับใจในคุณภาพและบริการที่เป็นเลิศ หรือ Customers are delighted with water quality and excellent services. โดยใช้น้ำประปาซึ่งถือเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญเพื่อช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ใช้น้ำให้มีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาคกล่าว
สหพันธ์วิศวกรรมสถานแห่งอาเซียน เป็นความร่วมมือกันระหว่างสมาคมทางด้านวิศวกรรมทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า และไทย โดยมีวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งด้วย
วัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง AFEO เพื่อส่งเสริมมิตรไมตรี ความเข้าใจ ความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรมนุษย์ การฝึกอบรม และการจดทะเบียนวิศวกรวิชาชีพ
สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่ได้เสนอชื่อให้รับรางวัล AFEO Honorary Fellow Awardนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงสุดขององค์กร ตลอดจนต้องเป็นสมาชิกของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้ทำคุณประโยชน์ในด้านวิชาชีพวิศวกรรม สังคม และประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลา ๓๗ ปีที่ผ่านมา กปภ. มุ่งมั่นให้บริการน้ำประปาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ควบคู่กับการปลูกฝังพนักงานให้มีจิตสาธารณะในการดำเนินงานความรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่งเสริมให้พนักงาน กปภ. ทั่วประเทศ ยึดคุณธรรมจริยธรรมเป็นพื้นฐานในการให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน และร่วมคิดร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากการดำเนินโครงการ CSR ตามแผนงานความรับผิดชอบต่อสังคมของ กปภ. อาทิ โครงการ กปภ.รักษ์ชุมชน โครงการ กปภ.รักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการโรงเรียนประหยัดน้ำ โครงการยุวประปารวมใจประหยัดน้ำ เป็นต้น
“กปภ.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพองค์กรทั้งด้านการผลิตและการบริการ เพื่อให้ผู้ใช้น้ำมีความพึงพอใจและเชื่อมั่นในคุณภาพน้ำประปาว่าสะอาด ปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค และอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดเสมอ โดยเฉพาะการตรวจสอบคุณภาพน้ำซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากนักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์ ประกอบกับอุปกรณ์ที่ต้องพัฒนาให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การตรวจสอบคุณภาพน้ำมีความแม่นยำ สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในกระบวนการผลิตน้ำประปาทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสำรวจแหล่งน้ำดิบ ระบบผลิต ระบบจ่าย และควบคุมการใช้สารเคมี”
ปัจจุบัน กปภ.ดำเนินการก่อสร้างห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ทั้งหมด 31 แห่ง ตั้งอยู่ที่ กปภ.เขต กปภ.สาขาต่างๆ และที่กองควบคุมคุณภาพน้ำ กปภ.สำนักงานใหญ่ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน เพิ่มขีดความสามารถความคล่องตัวในการทดสอบคุณภาพน้ำ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ รวมทั้งการให้บริการด้านวิชาการแก่ กปภ.สาขาและหน่วยบริการในสังกัด ตลอดจนหน่วยงานภายนอกที่ขอใช้บริการ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปี 2559 กปภ.ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 : 2005 ของห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ 25 แห่ง ได้แก่ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ของ กปภ.สาขาชลบุรี จันทบุรี สระบุรี ลพบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรีสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ อุดรธานี เลย สกลนคร อุบลราชธานี มุกดาหาร สุรินทร์ เชียงใหม่ เชียงราย เกาะคา นครสวรรค์ พิจิตร และตาก จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับ กปภ. ในการก้าวสู่การเป็นองค์กรแนวหน้าด้านน้ำประปาของประเทศไทยและได้รับการยอมรับในระดับสากล
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบ ISO/IEC 17025 : 2005 ในครั้งนี้นับเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาการดำเนินงานของ กปภ.ที่เพิ่มขึ้นและไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้มีน้ำประปาที่สะอาดและได้มาตรฐานตามองค์การอนามัยโลกสำหรับอุปโภคและบริโภค เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป