นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA เป็นประธานแถลงข่าวเนื่องในโอกาสวันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ครบรอบ 56 ปี ภายใต้นโยบายการบริหารและพัฒนา PEA สู่การเป็น การไฟฟ้าแห่งอนาคต เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการทำงาน มุ่งเน้นพัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี
56 ปีที่ผ่านมา PEA มีความมุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดทั้งในด้านคุณภาพและบริการ
ปัจจุบัน PEA มีการให้บริการในพื้นที่ครอบคลุม 74 จังหวัด มีสำนักงานให้บริการรวมกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ สถานีไฟฟ้า 540 แห่ง ระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูงประมาณ 300,000 วงจร-กิโลเมตร รองรับลูกค้าประมาณ 18.44 ล้านราย ซึ่งมีความต้องการใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุดรวม 20,438.91 เมกะวัตต์
“ก้าวต่อไปสำหรับ PEA มุ่งสู่การเป็นไฟฟ้าแห่งอนาคต ด้วยนโยบาย พัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี ให้ PEA เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งพัฒนากระบวนการทำงานที่รองรับยุคดิจิทัล มีมาตรฐานงานบริการที่เป็นเลิศ มีระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย มั่นคง เชื่อถือได้ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ”
สำหรับแผนงานโครงการสำคัญ ที่ PEA ดำเนินการมีดังนี้
- โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่ง PEA ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการในวงเงินลงทุน 1,069 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ระหว่างปี 2558-2560
- โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ จำนวน 29,000 ครัวเรือน โดยใช้งบประมาณรวม 1,000 ล้านบาท ได้ขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่แล้ว จำนวน 32,336 ครัวเรือน
- การจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ PEA ในปี 2559 ดำเนินการรื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่ใช้งานและรวบมัดสาย ในปี 2559 ระยะทางรวม 1,000 กิโลเมตร ควบคู่กับการติดตั้งรางพาดสายสื่อสารใต้คานนั่งร้านหม้อแปลงเส้นทางวิกฤติ ในแหล่งชุมชนเมือง 74 จังหวัด วงเงินงบประมาณรวม 11.10 ล้านบาท
- โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 4 พื้นที่ ได้แก่ จ.เชียงราย จ.นราธิวาส จ.นครพนม จ.กาญจนบุรี ใช้งบประมาณรวม 4,000 ล้านบาท โดยคณะกรรมการ กฟภ. เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี PEA สร้างต้นแบบการไฟฟ้าโปร่งใสและขยายผลไปยังทุกสายงานและการไฟฟ้าต่างๆ ทั่วประเทศ ให้เป็นมาตรฐาน แนวทางเดียวกันทั้งองค์กร
- การอำนวยความสะดวกและรวดเร็วในงานบริการให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า PEA จัดตั้งศูนย์บริการลูกค้า ครอบคลุมทุกภาคส่วนให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็ว เปิดให้บริการ PEA Shop ในห้างสรรพสินค้า จำนวน 82 แห่ง ได้ปรับปรุงรถยนต์ให้เป็นรถบริการเคลื่อนที่ PEA Mobile Shop บริการตามชุมชนต่างๆ จำนวน 50 คัน มีการพัฒนาระบบงานบริการขอใช้ไฟฟ้าแบบ One Touch Service ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงพัฒนาศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า สายด่วน 1129 PEA Call Center เข้าสู่ระยะที่ 3 โดยพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพจากเดิม 60 คู่สาย เป็น 90 คู่สาย มีการเพิ่มภาษาอาเซียน เช่น ภาษาพม่า กัมพูชา และมลายู อีกทั้งได้เพิ่มช่องทาง Social Media ต่าง ๆ
ด้านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพิ่มเติมว่า PEA เน้นยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานและดำเนินการตามนโยบายการกำกับดูแลที่ดี นโยบายต่อต้านการทุจริตอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามกระทรวงมหาดไทย พร้อมให้การสนับสนุนการบูรณาการประสานงานร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอื่นเพื่อให้การดำเนินงานของ PEA เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วไม่ก่อให้เกิดความซ้ำซ้อน ตามยุทธศาสตร์ประชารัฐของรัฐบาลที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ได้รับบริการขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกันส่งผลต่อภาพรวมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสูงขึ้นในยุค 4.0 ต่อไป