กลุ่มอุบล ไบโอ เอทานอล ชูรางวัล Thailand Energy Awards ปี 2562 พร้อมมาตรฐาน ISO 14001:2015/ ISO 45001:2018 วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตรุกการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานพืชผลการเกษตรแบบครบวงจรและใหญ่สุดในภาคอีสานสู่ตลาดการค้าสากล ด้านกระทรวงพลังงานฉลองครบ 20 ปี รางวัล ไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ด ผลักดันอุตสาหกรรมไทยใช้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับอาเซียน
กลุ่มบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นสร้างธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และพลังงานทดแทนครบวงจร โดยมุ่งเน้นตั้งแต่การปลูก การวิจัยพัฒนา ไปจนถึงการผลิตแป้งมัน เอทานอล ก๊าซชีวภาพ ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ ที่มีคุณภาพจากพืชพลังงาน “มันสำปะหลัง” บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวขึ้นไปสู่การเป็นผู้นำการผลิต และจำหน่วยเอทานอลของภูมิภาคเอเชีย ปัจจุบัน บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำของประเทศ ได้เข้าร่วมลงทุน และสนับสนุนการดำเนินงานของพัฒนาชุมชน และเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดข้างเคียง โดยเน้นด้านการศึกษา การรักษาสิ่งแวดล้อม และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน
ล่าสุดบริษัทฯได้รับรางวัล Thailand Energy Awards ปี 2562 ระดับดีเด่นด้านพลังงานทดแทน จากกระทรวงพลังงาน พร้อมรองรับการผลิตคุณภาพด้วยมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 และมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001:2018 เพื่อรองรับการผลิตผลแปรรูปทางการเกษตร เอทานอลและแป้งมันสำปะหลังกว่า 400,000 ลิตรต่อวัน
20 ปีรางวัลไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ค
กระทรวงพลังงานฉลองครบรอบ 20 ปี รางวัล ไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ด ภูมิใจผลงานสร้างนักพัฒนาพลังงานทดแทนและนักอนุรักษ์พลังงาน ขึ้นแท่นผู้นำอาเซียน มั่นใจทิศทางพัฒนาพลังงานประเทศ สร้างทางเลือกเพิ่มประสิทธิภาพ ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Thailand Energy Awards ประจำปี 2562 เปิดเผยว่า เป็นโอกาสการฉลองความสำเร็จครบรอบ 2 ทศวรรษ กับการผลักดันการพัฒนาพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานของไทย ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของทุกภาคส่วน ในความมุ่งมั่น ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศ โดยรางวัล Thailand Energy Awards นับเป็นรางวัลเกียรติยศในภาคพลังงาน ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทุกภาคส่วน ในการมุ่งไปสู่ทิศทางการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานของประเทศในอนาคต ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดการต่อยอด ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความมั่นคงในระบบพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานได้ส่งเสริมและเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงาน และการพัฒนาพลังงานทดแทน ผ่านการประกวดไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ด (Thailand Energy Awards) อย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมียอดส่งผลงานเข้าประกวด รวม 3,465 ผลงาน ได้รับการคัดเลือกรับรางวัลในสาขาต่างๆ จำนวน 951 รางวัล คิดเป็นสัดส่วนลดการใช้พลังงาน มูลค่ากว่า 9,300 ล้านบาท สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 1.9 ล้านตัน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า รางวัล Thailand Energy Awards เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ไม่เพียงแต่ผู้ได้รับรางวัลเท่านั้น ยังรวมไปถึงการเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแสดงศักยภาพบนเวทีระดับอาเซียน คว้ารางวัลอาเซียนเอนเนอร์ยี่อวอร์ด (ASEAN Energy Awards ) มาได้ถึง 211 รางวัล ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุด และเป็นที่หนึ่งในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง 10 ปี จนเป็นที่ยอมรับของประเทศสมาชิกอาเซียนในการดำเนินนโยบาย และเป้าหมายการพัฒนาพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงาน ที่มีประสิทธิภาพในด้านการลดการใช้พลังงาน สามารถนำเทคโนโลยีมาผสมผสานจนเกิดนวัตกรรมใหม่ ที่นำไปสู่การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานที่เห็นผลอย่างแท้จริง
ด้านนายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้จัดพิธีมอบรางวัล เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ด อย่างยิ่งใหญ่ประกอบด้วยการแสดงนิทรรศการนวัตกรรมด้านพลังงานจากผู้ประกอบการและผู้ได้รับรางวัลไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ด การบรรยายจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทั้งจากไทยและต่างประเทศ พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ โดยในปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลไทยแลนด์เอนเนอร์ยี่อวอร์ด ประจำปี 2562 ทั้งสิ้น 66 รางวัล จาก 5 สาขา ประกอบด้วย ด้านพลังงานทดแทน จำนวน 20 รางวัล ด้านอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 25 รางวัล ด้านบุคลากร จำนวน 10 รางวัล ด้านพลังงานสร้างสรรค์ จำนวน 2 รางวัล ด้านผู้ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน จำนวน 9 รางวัล จากผู้ส่งผลงานทั้งสิ้น 322 ผลงาน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ส่งเข้าประกวดจำนวน 268 ผลงาน