สู่ปีที่ 23 โพลีเพล็กซ์ ฯ เดินแผนขยายการลงทุนสายการผลิตแผ่นฟิล์ม BOPET ชนิดบาง และ Offline Coater ในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นทั้ง 2 โครงการมีกำหนดเดินเครื่องทดสอบเชิงพาณิชย์ (COD) ราวไตรมาส 2 ปี 2567/2568 พร้อมชูมาตรฐาน ISO 22000: 2018 การันตีสินค้าคุณภาพรุกตลาดโลก
นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL เปิดเผยว่า บริษัทประเมินภาพรวมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (Packaging) อุตสาหกรรม (Industrial) และอุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical )เริ่มทยอยฟื้นตัว หนุนจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ฟิล์มพลาสติก (Demand) ในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะในอินเดีย, อินโดนีเซีย และไทยฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ปริมาณสินค้าค้างสต๊อก (Dead Stock) ในทวีปยุโรป และอเมริกาก็เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งจะนำไปสู่การสั่งสินค้า (Restocking) ในระยะอันใกล้นี้ สะท้อนจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566/2567 (ต.ค. – ธ.ค. 66) บริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไร 75,657 ล้านบาทจากขาดทุน 43,510 ล้านบาทในงวดไตรมาส 3/2565
ทางด้านการขยายการลงทุนบริษัทยังคงแผนการโครงการลงทุนสายการผลิตแผ่นฟิล์ม BOPET ชนิดบาง และ Offline Coater ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นทั้ง 2 โครงการมีกำหนดเดินเครื่องทดสอบเชิงพาณิชย์ (COD) ราวไตรมาส 2 ปี 2567/2568 (กันยายน 2567) โดยเงินลงทุนของทั้ง 2 โครงการอยู่ที่ประมาณ 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งทางบริษัทใช้เงินกู้ระยะยาววงเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา และกระแสเงินสดในบริษัทย่อยที่สหรัฐอเมริกา
รวมถึงเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทจากบริษัทย่อยในตุรกี โดยทยอยลงทุนตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้บริษัทยังคงมุ่งขยายฐานเข้าสู่ตลาดฟิล์มเฉพาะเจาะจง (Specialty Film) อาทิ ฟิล์มที่ใช้ภายในแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Car), เซลล์โฟโตวอลเทอิก (Photovoltaic cell)ที่ใช้ในอุตสาหกรรมแผงโซลาร์ ฯลฯ ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์รัฐภูมิศาสตร์ในพื้นที่ทะเลแดงอย่างใกล้ชิด โดยในระยะสั้นสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าของบริษัททั้งในทวีปยุโรป และอเมริกา เนื่องจากความล่าช้าด้านการขนส่งสินค้าทางเรือ
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2566/2567 (มกราคม – มีนาคม 2567) ยังมีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2566/2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งปัจจัยหนุน และปัจจัยกดดันโดยเฉพาะเศรษฐกิจในจีนที่ยังฟื้นตัวช้ากว่าที่หลายฝ่ายประมาณการ
อย่างไรก็ตามบริษัทได้ให้ความสำคัญด้านการผลิตภายใต้มาตรฐาน ISO 22000 :2018 และยังคงประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโดยรวม ทั้งหมวดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (Packaging), อุตสาหกรรม (Industrial), และอุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical) เริ่มมีสัญญาฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยแนวโน้มความต้องการใช้สินค้า (Demand) ในทวีปยุโรป, อินโดนีเซีย, อินเดียเริ่มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการสามารถระบายสต๊อกส่วนเกิน (Dead Stock) ได้แล้ว และจะเริ่มกลับมาสั่งผลิตสินค้าอีกครั้ง
“บริษัทประเมินว่าความต้องการสินค้าจะขยายตัวได้ราว 4-4.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กำลังการผลิตจะอยู่ระหว่าง 4.8-5 เปอร์เซ็นต์ และจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลในอนาคต อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้จะยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Dead Stock กดดันศักยภาพการทำกำไร (Margin) อย่างมีนัยสำคัญ ” นายอมิตกล่าวตอนท้าย
โพลีเพล็กซ์ไทยก้าวสู่ปีที่ 23
บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในไทยเริ่มต้นด้วยสายการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางเพียงสายการผลิตเดียวในปี 2546 PTL ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็นสองเท่าในปีเดียวกันโดยการเพิ่มสายการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางสายการผลิตที่สองที่มีขนาดกำลังการผลิตใกล้เคียงกัน และต่อจากนั้นในปี 2547/2548 ได้เริ่มเดินเครื่องโรงงานเม็ดพลาสติกแบบ batch process และแบบ continuous process ทำให้บริษัทสามารถผลิตเม็ดพลาสติก PET สำหรับใช้เองครบวงจรได้อย่างเพียงพอ ในการเข้าสู่ตลาดแผ่นฟิล์ม PET ชนิดหนานี้ ในปี 2556 PTL ได้ก่อตั้งสายการผลิตแผ่นฟิล์มหนาใหม่และโรงงานเม็ดพลาสติกแบบ batch process ในจังหวัดระยอง ประเทศไทยซึ่งอยู่ติดกับโรงงานผลิตเดิมด้วยกำลังการผลิต 28,800 ตันต่อปีสำหรับโรงงานแผ่นฟิล์มและ 28,000 ตันต่อปีสำหรับโรงงานเม็ดพลาสติก อีกด้วย