การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟฝ.) ผู้สร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ มากตลอดระยะเวลา 51 ปี ประกาศแผนสร้างโรงไฟฟ้าให้เป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศหรือแผนPDP 2018 เพื่อรองรับความต้องการใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับการสร้างโรงไฟฟ้าแต่ละโรงนั้นนอกจากการมีโรงไฟฟ้าหลักซึ่งเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งแล้ว กฟผ. ยังคำนึงถึงรูปแบบเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะมาใช้ร่วมกับโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เพื่อรองรับพลังงานหมุนเวียน และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย ดังเช่นการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานีซึ่งนับเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ พร้อมกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปีนี้ และนั่นจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนของประเทศ เพื่อลดข้อจำกัดความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียน ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ และช่วยให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด
การขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ก้าวไปข้างหน้าในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนั้น กฟผ. ได้ติดตามและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์การ เช่น ด้านพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้สอดรับกับทิศทางพลังงานโลก
51 ปี กฟผ.วางแผนทิศทางที่จะเดินหน้าก้าวต่อไปที่ตั้งใจจะสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น ทำให้เรามั่นใจที่จะก้าวต่ออย่างมั่นคง และนับจากนี้ถือเป็นความท้าทายของเจ้าหน้าที่ กฟผ.ทุกคนที่จะร่วมกันขับเคลื่อน ด้วยพลังความสามารถ ศักยภาพ และด้วยหัวใจที่
ทั้งนี้ด้วยศักยภาพของการบริหาร จัดการ กฟผ. ส่งผลให้ได้รับรางวัลจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ด้านการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น 4 ปีซ้อน และอีก 2 รางวัลด้านนวัตกรรมและดิจิทัล
สำหรับรางวัล 3 รางวัล ที่ กฟผ. ได้รับในครั้งนี้ รางวัลเกียรติยศบริหารจัดการองค์กรดีเด่น โดยมี นายสุธน บุญประสงค์ กรรมการ กฟผ. เป็นผู้แทน กฟผ. ขึ้นรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี ซึ่ง กฟผ. ได้รับรางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ประเภทเกียรติยศติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และถือว่าได้รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่นติดต่อกันเป็นปีที่ 4 เป็นผลมาจากการที่ กฟผ. มีการบริหารจัดการองค์การที่ดีในด้านบทบาทของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ด้านการตรวจสอบภายใน ด้านการควบคุมภายใน ด้านการบริหารความเสี่ยง ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และด้านการบริหารจัดการสารสนเทศ
ด้านรางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น โดยมีนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. เป็นผู้แทน กฟผ. ขึ้นรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีซึ่งรางวัลนี้ได้มาจากผลงาน ระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลหม้อแปลงไฟฟ้าแบบออนไลน์และมอนิเตอร์ริ่ง (Real-time Transformer Monitoring & Diagnostic System) จากฝ่ายระบบควบคุมและป้องกัน และฝ่ายบริหารจัดการสินทรัพย์ระบบส่ง ซึ่งผลงานดังกล่าวยังได้รับรางวัลเหรียญเงินในงาน 47th International Exhibition of Inventions Geneva 2019 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส อีกด้วย
รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล ประเภทเชิดชูเกียรติ โดยมี นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ เป็นผู้แทน กฟผ. ขึ้นรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งรางวัลนี้เป็นรางวัลใหม่สำหรับปีนี้ ที่มอบให้แก่รัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นด้านงานดิจิทัลเพื่อใช้ในการพัฒนาองค์กรในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมา กฟผ. มุ่งเน้นการพัฒนาไปสู่องค์การดิจิทัล (Digital Organization) โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนธุรกิจและสนับสนุนทุกกระบวนการทำงานหลัก เน้นพัฒนาและให้บริการ Digital Platform และ Digital Infrastructure ควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตามแผนพัฒนาดิจิทัล กฟผ. ซึ่งตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐอย่าง Thailand 4.0