บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เจ้าของรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานต่อเนื่อง 3 ปี จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดแผนโค้งสุดท้ายปลายปี 2563 เตรียมเปิด 16 โครงการ รวมมูลค่า 13,000 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มมีมาตรการผ่อนคลาย Lockdown ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 บริษัทได้มีการปรับตัว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่การปรับสัดส่วนการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเพิ่มสัดส่วนการเปิดตัวโครงการแนวราบ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค ครอบคลุมทุกทำเลศักยภาพ
สำหรับการเปิดตัวโครงการแนวราบ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวโครงการแนวราบไปแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีหลังเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท โดยยังคงแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบทั้งปีไว้ตามเดิมที่ 25 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท โดยขณะนี้ทยอยเปิดโครงการไปแล้วบางส่วน เช่น ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท โครงการนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากแนวคิด Luxurious Modern Oriental โดยประยุกต์ศาสตร์ฮวงจุ้ยมาใช้ในการออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เตรียมพร้อมส่งมอบโครงการให้ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้ในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้เป็นต้นไป
โครงการ บลิซ ศรีราชา-บ่อวิน ในจังหวัดชลบุรี มูลค่าโครงการ 536 ล้านบาท ครั้งแรกกับแบบบ้านใหม่ล่าสุด! ในจังหวัดชลบุรี ตอบโจทย์การอยู่อาศัย มอบความคุ้มค่าด้วยวัสดุคุณภาพ มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว บนทำเลที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง ติดถนนสายอ่าวอุดม-ปากร่วม ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นความสุขของครอบครัว
โครงการศุภาลัย วิลล์ อยุธยาบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับผู้พักอาศัย ภายใต้แนวคิด New Definition of Life…with Superior Living นิยามใหม่ของชีวิต…กับสิ่งที่เหนือกว่า ยกระดับของชีวิตด้วยสังคมคุณภาพ เพื่อเติมเต็มความสุขของทุกคนในครอบครัว ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 128-197 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3 ล้านต้น บนพื้นที่ 31 ไร่ จำนวน 185 แปลง มูลค่าโครงการ 703 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนงานในปี 2564 ว่าสำหรับธุรกิจของศุภาลัยในปีหน้าการเปิดโครงการใหม่จะมีตัวเลขใกล้เคียงกับปี 2563 ที่คาดว่าจะมีการเปิดโครงการได้ 29 โครงการซึ่งจะเปิดโครงการแนวนอนเป็นส่วนใหญ่ต่อความต้องการซื้อโครงการแนวนอนยังอยู่ในระดับสูงและในส่วนโครงการคอนโดมิเนียม แนะนำจะเปิด 3 โครงการใกล้เคียงกับปีนี้เพราะสถานการณ์ของคอนโดมิเนียมยังคงมั่นตัวต่อต่อเนื่องในปีหน้าและมองว่าผู้ประกอบการพัฒนาในตลาดจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเช่นเดียวกันมองดูภาพของตลาดที่ยังไม่ ก้าวกลับมาเร็ว
“ที่ยังคงเปิดคอนโดมิเนียมเนื่องจากทางศุภาลัยมองว่ายังพอมีพอกินเนื่องจากมีการเปิดโครงการทำให้การแข่งขันแม้จะยังคงมีอยู่ แต่มีน้อยลงซึ่ง บริษัท มีที่ดินการพัฒนาคอนโดฯ ในปีนี้ถึงปีหน้าแล้ว เพียง แต่ปี 64 วางไข่เปิดไว้ 3 โครงการคอนโดฯ แต่อาจมีเพลงสรรเสริญเช่นเดียวกับที่จะเข้ามาแข่งขันไม่มากก็อาจจะเปิดรวมถึง 5 โครงการได้โดยในปีนี้ตั๋วที่วางไว้ 8,000 ล้านบาทมี การใช้ไปไม่ถึง 50 เทียบเพราะราคาที่ดินในปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูงและผู้ขายต่ำลดราคาลดลงภาพที่เหมาะสมของเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ บริษัท ยังไม่เร่งรีบในการซื้อที่ดิน
ทั้งนี้การปรับกลยุทธ์การลงทุนพัฒนาโครงการแนวราบมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับยอดลูกค้าเยี่ยมชมโครงการเพิ่มมากขึ้นเทียบเท่าสภาวะปกติ ทำให้บริษัทสามารถกวาดยอดขายโครงการแนวราบทั่วประเทศได้กว่า 2,300 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากยอดขายในเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พบว่าแบรนด์แนวราบที่สามารถสร้างยอดขายได้ดี คือ พาร์ควิลล์, พรีมา วิลล่า, ไพรด์, เอสเซ้นส์ และ เออร์บานา โดยเห็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายแนวราบ ไปในทิศทางเดียวกันทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค