บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ก่อตั้งขึ้นในปี 2434 ชื่อเดิมว่า ร้านขายยาเต๊กเฮง กว่า 126 ปี บริษัทมีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในทุกช่วงวัยมาอย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสครบรอบ 126 ปี บริษัทได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ พร้อมกับปรับสโลแกนใหม่ จากเดิมใช้สโลแกนว่า เพื่อชีวิตที่ดียิ่งกว่าเป็น พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต มุ่งเน้นการเป็นองค์กรที่มุ่งเสริมสร้างชีวิตให้แก่ผู้บริโภคและสังคม ด้วยผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยมีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นผลสำเร็จในการดำเนินงานที่เป็นเลิศ และยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อทำให้ภาพลักษณ์มีความทันสมัยก้าวเข้าสู่ปีที่ 126 ของบริษัท โอสถสภา เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เกิดจากการที่ตระกูลโอสถานุเคราะห์ เจ้าของบริษัท โอสถสภา มีการเปลี่ยนแปลงคนในตระกูลที่เข้ามาดูบริษัท โอสถสภา หลังจากที่ตัวแทนของตระกูลคนใหม่เข้ามานั่งบริหาร ได้มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของบริษัท มีการแต่งตั้งนางวรรณิภา อดีตผู้บริหารของบริษัท ยูนิลีเวอร์เข้ามาปรับเปลี่ยนองค์กร และเตรียมจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ช่วงปลายปี 2557 โอสถสภามีแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ วงเงิน 6,400 – 8,000 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 – 2559 และก่อนหน้านั้น โอสถสภา ได้ปรับโครงสร้างองค์กรโดยแต่งตั้ง นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท เพื่อก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น เงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปขยายตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือ
กลุ่มโอสถสภาจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปไอพีโอ เป็นมูลค่าที่สูงถึง 5-6 หมื่นล้านบาท และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของโอสถสภา ถือเป็นความสำเร็จของตลท.หลังจากใช้เวลาในการทาบทามมากว่า 10 ปี
นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายเพื่อการเป็นบริษัทอุปโภคบริโภคที่ดีที่สุดในประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิตใน 3 ด้าน คือ การเป็นองค์กรที่มุ่งเสริมสร้างชีวิตของผู้บริโภคและสังคมด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพโดยใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย การมีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นผลสำเร็จในการดำเนินงานเป็นเลิศ และการยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานสากล
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด กล่าวเสริมว่า เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทอุปโภคบริโภคที่ดีที่สุดในประเทศไทยนั้น บริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงใน 8 ด้าน ได้แก่ 1.การปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ 2.การบริหาร Brand Portfolio ใหม่เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและลูกค้าให้ดีที่สุด 3.การบริหารจัดการข้อมูลทรัพยากรองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าและผู้บริโภค 4.การเสริมสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจทั้งการจัดการข้อมูล การบริหารการตลาดร้านค้าและการทำการตลาดดิจิทัล 5.การบูรณาการและปรับโครงสร้างการบริหารงานของปฏิบัติการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน กระบวนการทำงานและระบบซัพพลายเชน 6.การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยการเพิ่มองค์ความรู้ในด้านต่างๆ แก่ผู้บริหารและพนักงาน 7.การพัฒนาสถานที่ทำงานภายใต้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดีและมีความสุข และ 8.การส่งเสริมความปลอดภัยของพนักงานทั้งในสถานที่ทำงานและระหว่างปฏิบัติงานและลดอุบัติเหตุในการทำงาน
“แม้ว่าปัจจุบันโอสถสภาเป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มให้พลังงาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวในหลายแบรนด์ แต่บริษัทยังคงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและมุ่งมั่นยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และส่งเสริมให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าและผู้บริโภค พร้อมรองรับการขยายธุรกิจที่สำคัญของบริษัทในอนาคต” นางวรรณิภา กล่าว