สโตนเฮ้นจ์ จัดโรดโชว์นักลงทุน เตรียมนำเงินตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรปั้นคนเสริมธุรกิจระยะยาว
บริษัทได้จัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนและประชาชนเพื่อแนะนำข้อมูลธุรกิจและข้อมูลทางการเงินของกลุ่ม STI ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี
อย่างไรก็ตาม STI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO)จำนวนไม่เกิน 68,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.37 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท
ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้ STI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วอยู่ที่ 134,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 268,000,000 หุ้น โดยในขณะนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาแบบคำขออนุญาตการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนจากสำนักงานก.ล.ต. (SEC)เพื่อที่จะยื่นเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ต่อไป
ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนที่ได้รับจากกระระดมทุนครั้งนี้จะแบ่งเป็น 4 ส่วนคือ จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทักษะความรู้พนักงาน เพราะหลักสูตรอบรมพนักงานต่อเนื่อง ปีละ 2-3 คอร์ส หลักสูตรละ 3 เดือนทุกวันเสาร์ สอนเขาจริงๆเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับการดำเนินธุรกิจประมาณ 40 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งนำไปพัฒนาแอปพลิเคชันและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับตรวจห้องเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานประมาณ 20 ล้านบาท รวมถึงลงทุนอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมด้านการออกแบบ ควบคุมงานก่อสร้าง การเงิน-การบัญชี ประมาณ 30 ล้านบาท
และในส่วนอื่นๆนำใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและเงินทุนในการเข้าลงทุนในกิจการอื่นๆ เพิ่มขีดความสามารถของกลุ่ม STI ให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคต่อไป
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การตัดสินใจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ ก็เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ การเข้าประมูลงานใหม่อย่างสม่ำเสมอ จากลูกค้าภาคเอกชนที่กลุ่ม STI มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ทั้งงานแนวราบและแนวสูง และรุกงานภาครัฐบาลเพิ่มขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
STI มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ จำนวน 716.53 ล้านบาท หรือประมาณ 100 โครงการ แบ่งเป็นงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 659.69 ล้านบาท และงานออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมจำนวน 56.84 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือดังกล่าวตามความสำเร็จของงาน ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 ไปจนถึง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าแนวโน้มธุรกิจในปีนี้จะสามารถเดินตามเป้าหมายที่วางไว้ และเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2560 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 494.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 57.51 ล้านบาท
บริษัทได้เดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อม และเพื่อให้นักลงทุนได้ทำความเข้าใจในธุรกิจของกลุ่ม STI มากยิ่งขึ้น จากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความสำเร็จจากงานโครงการขนาดใหญ่มากมาย รวมถึง โครงการ One Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ STI ได้รับความไว้วางใจให้ไปดูแลงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตามความสำเร็จของโครงการ