PSH เปิด 15 โครงการทิ้งทวนปี 61 กวาด Backlog กินยาวถึงปี 64 ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำอสังหาฯอันดับ 1 ของไทย
PSH ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มพรีเมียมปี 2562 มูลค่า 8,000 ล้านบาท เผยยอดรอโอน(Backlog )กว่า 1.6 หมื่นล้านบาทยาวถึงปี 2564 เปิดโครงการใหม่ท้ายปีมูลค่ากว่า1,700 ล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท บริษัทในกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยแผนการดำเนินงานสำหรับปี 2562 ว่าบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากโครงการพรีเมียมไว้ประมาณ 8,000 ล้านบาท จากปีนี้ยอดขายเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้6,800 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรวมที่ 7,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันเป้าหมายยอดโอนของกลุ่มพรีเมียมในปีหน้าประมาณ 6,000 ล้านบาท จากยอดโอนปีนี้ 2,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการโอนต่อเนื่องของโครงการChapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง เข้ามามากขึ้นและจะมีโครงการ The Reserve ทองหล่อ 2 จะเริ่มโอนในช่วงไตรมาส 3/2562 โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน(Backlogกลุ่มพรีเมียมทั้งหมด1.6 หมื่นล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2564
“บริษัทเปิดโครงการพรีเมียมใหม่ 1 โครงการ มูลค่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งทยอยเปิดตัวโครงการเดอะรีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์ เป็นคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร บนเนื้อที่ 3 ไร่ครึ่ง จำนวน 164 ยูนิต และพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากถึง 2 ไร่ ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในย่านนี้ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 เริ่มต้นตั้งแต่ 12 – 60 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 230,000 -260,000 ต่อตารางเมตร มีแบบห้องให้เลือกถึง 5 แบบ พื้นที่ตั้งแต่ 48.40 – 228 ตารางเมตร และห้องที่เป็นไฮไลท์ของโครงการนี้คือ ห้อง Triplex 3 ชั้น ขนาดเริ่มต้นที่ 206 – 228 ตารางเมตร”
สำหรับในไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดโครงการใหม่อีก 15 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ และโครงการแนวสูง 3 โครงการ รวมมูลค่า 11,400 ล้านบาท เพื่อครองความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดอสังหาฯ
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 ว่าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล คาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4.20 แสนล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนโครงการลงทุนด้านการคมนาคมของภาครัฐบาลซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 53,742 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 135 เปอร์เซ็นต์ และรายได้ 50,500 ล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 10 5 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้เติบโตมากกว่า 13.5 5 เปอร์เซ็นต์ โดยมาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 75 โครงการ มูลค่า 66,700 ล้านบาท
รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งบประมาณรวมถึงการร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น อาทิ การใช้เสาเข็มมาตรฐาน มอก. ของ GEL, ร่วมมือกับ SCG พัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ทันสมัยมาใช้ในโครงการและการพัฒนาคุณภาพสีทาบ้านร่วมกับ TOA เป็นต้น
ขณะที่ความคืบหน้าของโรงพยาบาลวิมุตขณะนี้โครงการได้ผ่าน EIA และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโดยใช้งบประมาณ 650 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้ในปี 2020