บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL ผู้ดำเนินธุรกิจสายการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางก่อตั้งขึ้นในปี 2546 ปัจจุบันสายการผลิตหลักของบริษัทยังคงเป็นประเภทแผ่นฟิล์มพลาสติก Sarafil
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการขยายกำลังผลิต เพิ่มกำลังการผลิต รวมถึงขยายตลาดให้กระจายตัวเพื่อให้เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Blown Film ออกมาเมื่อช่วงไตรมาสที่2/2561 เข้ามาผลักดันยอดขาย ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตถึง 4,000 ตันต่อปี
นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการPTL ได้คาดการณ์ถึงแนวโน้มปริมาณขายปี 2561/2562 ซึ่งอยู่ระหว่าเดือนเมษายน ปี 2561-มีนาคม ปี2562 ว่า คาดว่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัดแต่ยังเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 2 – 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดูจากครึ่งปี 2561 ที่ปริมาณและยอดขายเติบโตราว4เปอร์เซ็นต์ ส่วนในไตรมาส 4/2561ที่ผ่านมาว่าปริมาณขายและยอดขายเติบโตกว่าไตรมาสที่ 3/2561 เพียง 1-2 เปอร์เซ็นต์ ตามความต้องการพลาสติกฟิล์ม ในเอเชีย, ยุโรปฯ และสหรัฐฯ
“ซึ่งเป็นผลจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายช่วงจึงทำให้เกิดการชะลอตัว ปริมาณการขายลดลงแต่โดยรวมดีมานด์ และความต้องการพลาสติกฟิล์มทั่วโลกเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ซึ่งยังคงเป็นแรงหนุนต่อธุรกิจของบริษัทด้วย”
สำหรับภาพรวมความต้องการพลาสติกฟิล์มทั่วโลกยังเติบโตได้ 5-6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่การขายกระจายไปในหลายทวีปและมีสัดส่วนรายได้แต่ละแห่งแบ่งดังนี้ เอเชีย 30 เปอร์เซ็นต์ สหรัฐอเมริกา 30 เปอร์เซ็นต์ ยุโรป 30 เปอร์เซ็นต์ และประเทศอื่นๆที่เหลือ ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฟิล์มเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
กรรมการผู้จัดการPTL เปิดเผยต่อว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นสูงในตลาดทำให้บริษัทขยายโรงงานการผลิตออกไปยังระดับภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโรงงานการผลิตกระจายอยู่ในหลายประเทศ อาทิ ประเทศไทยมประเทศอินเดียมประเทศตุรกีมประเทศสหรัฐฯประเทศจีนประเทศมาเลเซีย ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศเกาหลี และประเทศอินโดนิเซีย
ขณะที่การควบรวมกิจการหรือการหาพันธมิตรเพื่อขยายกิจการยังมีอยู่ต่อเนื่อง บริษัทได้ติดตามการเข้าและหาโอกาสในการลงทุนอย่าง ซึ่งคัดเลือกการลงทุนโดยประเมินจากอัตรากำไรที่มีความเสถียรภาพ ถ้าหากบริษัทจะพิจารณาเข้าซื้อกิจการก็จะทำการประเมินอายุของทรัพย์สินนั้น ก่อนเพื่อให้มีผลตอบแทนที่ดีต่อบริษัท และเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต