SITHAI ติดโผรับสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานและสวัสดิการแรงงานปี2560 เตือน!รัฐฯแก้ระบบโลจิสติกส์ก่อนเสียโอกาสลงระหว่างประเทศ
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAIชื่อเดิม “ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุตสาหกรรมศรีไทยพลาสติก” ผู้ผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กาละมัง ถังน้ำ และของเล่นสำหรับเด็ก ต่อมาได้ขยายการผลิตสินค้าพลาสติกเพื่องานอุตสาหกรรมต่างๆตลอดจนผลิตภัณฑ์เมลามีนภายใต้เครื่องหมายการค้า “ซุปเปอร์แวร์” ตรานกเพนกวิน
ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมณี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย และกลุ่มประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง บริษัทเติบโตและขยายธุรกิจไปในทิศทางที่ดีมีบริษัทในเครือและบริษัทร่วมทุนกับต่างประเทศ รวม 18 บริษัท
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่เสริมให้บริษัทเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ต้องยอมรับว่ามาตรฐานการผลิตก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อโดยบริษัทมีความมุ่งมั่นในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ และมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทให้ความสำคัญกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค โดยในส่วนของผู้ผลิตพนักงานของบริษัทเราก็ดูแลในเรื่องสวัสดิการเป็นอย่างดี ซึ่งการรันตรีได้จากรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานจาก ปี 2560 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานโดยโรงงานทั้ง 2 แห่งของบริษัท ได้รับรางวัลดังกล่าวด้วย
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) สาขานครราชสีมาได้รับรางวัลดังกล่าว 10 ปี ติดต่อกัน ระหว่างปี 2551-2560 โดยอยู่ในประเภทสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ ไม่มีสหภาพแรงงาน ส่วนบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) สาขาสมุทรปราการ ได้รับรางวัล 5 ปี ติดต่อกันระหว่างปี 2556-2560 ในประเภทสถานประกอบกิจการขนาดกลาง ไม่มีสหภาพแรงงาน
สำหรับการลงทุนบริษัทให้ความสำคัญในการออกไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งมีการศึกษาศักยภาพของตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเวียดนามที่ขณะนี้ธุรกิจกำลังขยายตัวไปด้วยดี รวมถึงที่ประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาและฟิลิปปินส์ เพราะมองว่าตลาดเหล่านี้มีศักยภาพ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามองเห็นศักยภาพตลาดเวียดนามมาตั้งแต่แรกว่าตลาดในประเทศจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งสามารถส่งออกไปกัมพูชาได้โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 4 ชั่วโมงโดยรถบรรทุกจากโฮจิมินห์ไปยังกัมพูชา
ปัจจุบันที่เวียดนามมีโรงงานผลิตทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย โรงงานที่1 และ2 ทำการผลิตสอง ผลิตภัณฑ์ที่โฮจิมินห์คือ การฉีดพลาสติก และเมลามีน จาน ชาม ซุปเปอร์แวร์ และโรงงานแห่งที่3 เป็นโรงงานฉีดพลาสติกที่ฮานอย และโรงที่4 ที่โฮจิมินห์ เป็นโรงงานฉีดพลาสติกในส่วนที่เป็นฝาขวดป้อนให้กับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม เช่น ขวดPET และผลิตหลอดPreform และและเมลามีน
ประธานกรรมการบริหารบริษัท กล่าวต่อว่า ปีนี้จะลงทุนเชิงรุกใน 4 ส่วนที่เวียดนามคือ 1.เริ่มบุกสินค้าพลาสติกเคลือบเปลือกแบตเตอรี่ขายในตลาดเวียดนาม หลังจากที่มีการประกอบรถยนต์ในเวียดนามมากขึ้น 2.ถังบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุสีทาบ้าน บรรจุเคมี โดยบริษัทเชี่ยวชาญในการทำถังพลาสติก มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งที่เวียดนามยังไม่มี โดยใช้ระบบ in mold labeling แทนระบบระบบซิลค์สกรีน ที่มีการเคลื่อนย้ายเทคโนโลยีไปยังเวียดนาม 3.พลาสติกพาเรล(Plastic Pallet) เป็นลังพลาสติกใส่ชิ้นส่วน ผัก ผลไม้เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกที่เวียดนาม ที่ทุนเกาหลี ญี่ปุ่นและไทยมักเข้าไปลงทุน 4. ลังพลาสติกใส่ขวดแก้ว ป้อนอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั้งน้ำอัดลมและเบียร์
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรองรับตลาดเวียดนามที่มีประชากร 94 ล้านคน อีกทั้งสามารถส่งออกไปยังตลาดกัมพูชาได้ดีกว่าส่งออกจากไทยไปที่ปัจจุบันยังมีความยุ่งยาก ผ่านด่านชายแดนก็มีปัญหาและมีต้นทุนสูงกว่าเพราะใช้เวลาขนส่งทางบกนานซึ่งในส่วนนี้ถ้ารัฐบาลไทยไม่เร่งปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ และอำนวยความสะดวกในการขนส่งให้มากกว่านี้ เราจะเสียโอกาสการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น