สู่40 ปี การประปาส่วนภูมิภาค “นพรัตน์” ประกาศขับเคลื่อนองค์กรแบบก้าวกระโดด มอบนโยบายเดินหน้าทั่วประเทศ “ประปาใสสะอาด บริการทั่วถึง เป็นมิตรกับชุมชน”
การประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. หน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2522 มีหน้าที่ผลิตและให้บริการเกี่ยวกับน้ำประปาในทุกพื้นที่ของประเทศไทย(ยกเว้นกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ)อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานสากลขององค์การอนามัยโลก
ปี 2562 การประปาส่วนภูมิภาคก้าวสู่การสถาปนาครบรอบ 40 ปี ที่ผ่านมา กปภ.ยึดหลักการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ยึดมั่นในคุณธรรม นึกถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักขจัดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพน้ำประปาตั้งแต่กระบวนการผลิตจนส่งถึงผู้บริโภค
ล่าสุดนายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาคคนที่ 14 ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรแบบก้าวกระโดดภายใต้นโยบาย ประปาใสสะอาด บริการทั่วถึง เป็นมิตรกับชุมชนโดยมีเป้าหมายสูงสุดคือความสุขของประชาชน ควบคู่องค์กรต้องเติบโตอย่างยั่งยืน
ผู้ว่าการกปภ. กล่าวว่า ภารกิจของกปภ.ในทุกยุคสมัย คือ การรับผิดชอบการให้บริการน้ำประปาที่ปลอดภัยได้มาตรฐานสากลอย่างทั่วถึงและเพียงพอเพื่อสร้างพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนและสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาด้านอื่นๆที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศ
ทั้งนี้ภายใต้ภารกิจดังกล่าจึงจำเป็นต้องเร่งบริหารจัดการองค์กรหลายด้านเพื่อรับมือและฝ่าฟันความท้าทายที่เกิดขึ้นใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำดิบ ความต้องการใช้น้ำประปาที่เพิ่มมากขึ้น ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ไปจนถึงนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามผู้ว่าการ กปภ.ได้มอบหมายนโยบาย ประปาใสสะอาด บริการทั่วถึง เป็นมิตรกับชุมชน ยึดตามแนวทาง 4 ด้าน คือ1. การบริหารจัดการองค์กรโดยการกระจายอำนาจการบริหารสู่ระดับภูมิภาค มุ่งเน้นความรับผิดชอบตามภาระหน้าที่เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญและความคล่องตัว โดยมีการควบคุมประสิทธิภาพการทำงานผ่านตัวชี้วัดตลอดจนการสนับสนุนการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน 2.การตลาด โดยการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรผ่านโครงการต่างๆซึ่งดำเนินการโดยบุคลากรของกปภ.ที่ต้องดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดและนำนวัตกรรมการบริการเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านบริการและคุณภาพ เพิ่มโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่น 3.การพัฒนาบุคลากรโดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างเป็นระบบตามCareer Path และ Succession Planเพื่อสนับสนุนคนดีคนเก่งให้เป็นผู้บริหารตลอดจนการรักษาสิทธิประโยชน์ของพนักงานให้ทัดเทียมกับรัฐวิสาหกิจในระดับเดียวกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความรักในองค์กร และ 4. การมุ่งสู่ความเป็นสากลโดยการสร้างเครือข่ายสื่อสารรูปแบบออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสำนักงานและสถานีควบคุมจัดการน้ำทั่วประเทศการรวบรวมระบบงานสร้างเป็นฐานข้อมูลกลางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการการสร้างระบบตรวจตราป้องกันเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารงาน ตลอดจนการเพิ่มศักยภาพองค์กรด้วยการบริหารจัดการ Water Grid
นายนพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าการดำเนินงานตามแนวทางดังกล่าวข้างต้นจะมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ คือ การสร้างความสุขให้แก่ประชาชนผ่านระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำประปาที่ได้คุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงน้ำสะอาดด้วยการบริการอย่างทั่วถึงและเพียงพอควบคู่กับการที่กปภ.จะเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นองค์กรสมรรถนะสูงซึ่งมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามบทบาทหน้าที่ ที่ประชาชนคาดหวังได้อย่างเต็มภาคภูมิ
นอกจากนี้ยังได้หน้ายกระดับการบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องตั้งเป้าผลักดัน กปภ. 234 สาขา ผ่านมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก(Government Easy Contact Center หรือ GECC) ภายในปี 2562 มุ่งหน้าพัฒนาให้เป็นองค์กรยุคใหม่ตามนโยบายPWA 4.0 ซึ่งเปนการปรับทิศทางการบริหารองค์กรโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นชัดเจน คือ การบริการลูกค้ารูปแบบใหม่ๆที่สร้างความพึงพอใจและภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับองค์กร เช่น การขอติดตั้งประปาใหม่ผ่านเว็บไซต์ การแจ้งค่าน้ำประปาผ่านสมาร์ทโฟน การชำระค่าน้ำประปาผ่านแอปพลิเคชั่นการชำระค่าน้ำประปาแบบ Drive Thru เป็นต้น
ซึ่งการพลิกโฉมการบริการดังกล่าว มีเป้าหมายสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันให้มีศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center หรือ GECC) เพื่อให้คำแนะนำอำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาติดต่อหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งหวังให้มีการบริหารจัดการที่โปร่งใส เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2559 – 2560 กปภ. ได้รับการรับรองมาตรฐาน GECC ทั้งหมด 10 สาขา ประกอบด้วย กปภ.สาขาอุดรธานี ปทุมธานี เชียงใหม่ นครพนม นครศรีธรรมราช ปากพนัง พัทยา ระนอง สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี ซึ่งได้มอบหมายให้ กปภ. ทุกสาขายึดถือเป็นนโยบายในการเตรียมความพร้อมเข้าร่วมการตรวจสอบจากคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวกและจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ กปภ.ทุกสาขาผ่านการรับรองมาตรฐาน GECC ในปี 2562