นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่ปีนี้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำค่อนข้างมาก ซึ่งที่ผ่านมาพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งให้แต่ละกรมที่เกี่ยวข้องการดำเนินการส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่เป็นทางออกของการปฏิรูปภาคเกษตรประชุมร่วมกันโดยมีกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นแกนนำเพื่อจัดทำแผนดำเนินงานแปลงใหญ่ของแต่ละกรมส่งรัฐมนตรีซึ่งผลการประชุมร่วมกันทุกกรมในกระทรวงเกษตร ต้องใช้งบประมาณในการส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ 600 กว่าแปลงทั่วประเทศปีงบประมาณ 2560 รวม 737.5 ล้านบาท และทุกกรมต้องใช้งบประมาณในศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. ทั้ง 882 แห่งทั่วประเทศอีก 348 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้เป็นงบประมาณของกรมส่งเสริมการเกษตร 143 ล้านบาท
“เรากำหนดราคาผลผลิตสินค้าเกษตรไม่ได้ เราจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนอย่างไรในระยะยาว เราจะขับเคลื่อนทั้งหมดอย่างไร จึงต้องทำแผนธุรกิจเกษตรขึ้นมา เป็นแผนธุรกิจไม่ใช่การทำเกษตรอนาถาเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปีการผลิตนี้ การผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ทั้งหมดลดต้นทุนได้แล้ว 12% แต่การเพิ่มผลผลิตต้องรอให้เก็บเกี่ยวทั้งหมดเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะรู้ว่าผลผลิตเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์” นายสมชาย กล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการส่งเสริมเกษตรกรทำแปลงใหญ่ กรมจะผลักดันให้ 22 สหกรณ์นำร่องใช้เครื่องจักรกลในการผลิต การดำเนินการจัดซื้อเครื่องอบความชื้นสินค้าเกษตรในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งอาจจะซื้อบิ๊กแบ็กมาเก็บสินค้าเพิ่มเติม หากเกษตรกรไม่มียุ้งฉางเพียงพอ
นอกจากนี้ ที่ประชุมทุกกรมจะดำเนินโครงการ 9,999 โครงการเดินตามรอยเท้าพ่อตามที่ชุมชนแต่ละแห่งเสนอขึ้นมาด้วย