“กรมเจ้าท่า” เปิดเดินเรือใหม่เฟอร์รี่-สปีดโบ้ทเส้นทางใหม่ “ภูเก็ต-กระบี่-พังงา” รับท่องเที่ยวอันดามัน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าจากกรณีที่ปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลต่อการจราจรแออัดคับคั่งในเมืองภูเก็ต กรมเจ้าท่าจึงมีโครงการที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค โดยมีโครงการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบท่าเทียบเรือโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวบริเวณสนามบินภูเก็ตซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรทางถนนและนักท่องเที่ยวที่แออัดสนามบินภูเก็ตโดยใช้สนามบินคู่ภูเก็ต-กระบี่ผ่านเส้นทางเดินเรือใหม่“โครงการโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ต-พังงา-กระบี่” หรือ “วงแหวนแห่งอันดามัน”
พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นอันทรงคุณค่าของประเทศ ในเบื้องต้นจะมีเส้นทางดังนี้ เส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ 5 เส้นทาง คือ 1. เส้นทางท่าเรืออ่าวปอ ภูเก็ต-ท่าเรือช่องหลาด เกาะยาวใหญ่ พังงา-ท่าเรือท่าเลน กระบี่ 2. เส้นทางท่าเรือช่องหลาด เกาะยาวใหญ่ พังงา –ท่าเรือมาเนาะ เกาะยาวน้อย พังงา 3. เส้นทางท่าเรือบ้านหัวหิน ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา-ท่าเรือคลองหมาก ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ 4. เส้นทางท่าเรืออ่าวทองหลาง เกาะลันตา-เกาะจัม,ปู จ.กระบี่ 5. เส้นทางท่าเรือ อ.เก่า เกาะลันตาใหญ่-ท่าเรือเกาะปอ จ.กระบี่
เส้นทางเรือเร็ว (Speed Boat) ได้แก่ 1. เส้นทางท่าเรืออ่าวปอ ภูเก็ต-ท่าเรือแหลมล้าน เกาะยาวใหญ่ พังงา-หาดแหลมตง (เทียบหาดและโป๊ะ) เกาะพีพีกระบี่-ท่าเรือต้นไทร เกาะพีพี กระบี่-ท่าเรือศาลาด่าน เกาะลันตา กระบี่
ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจะกำหนดมาตรการความปลอดภัยทางน้ำ ได้แก่ การจัดระเบียบทางน้ำ การเพิ่มมาตรการความปลอดภัยของเรือ ท่าเรือ และคนประจำเรือ เพื่อรองรับกิจกรรมทางน้ำรูปแบบต่างๆ โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานในท้องถิ่นเพื่อกำกับดูแลและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งจะเป็นความร่วมมือกันในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างยั่งยืนโดยจะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันมีผลให้เกิดการกระตุ้นธุรกิจด้านการค้า การบริการ การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ ขยายตัวตามไปด้วย และเกิดการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม อันเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ส่วนภูมิภาค ทำให้มีผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวมดีขึ้น