“ชาติชาย”นำทัพธนาคารออมสินรับ 6 รางวัลอันทรงเกียรติ MONEY & BANKING AWARDS 2019 เผยเคล็ดลับบริหาร “ต้องคิดล้ำหน้ากว่าผู้อื่นเสมอ”
ธนาคารออมสินเข้ารับ 6 รางวัลจากงาน MONEY & BANKING AWARDS 2019 และผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายชาติชาย พยุหนาวีชัยยังได้รับรางวัล Financier of the Year 2018 2 ปี ซ้อน จากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคาร ผู้จัดงาน Money Expo 2019
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้รับรางวัลนักการเงินแห่งปีเป็นครั้งที่2 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการ การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน และการมองตลาดได้ถูกประเด็นตรงเวลา ซึ่งคิดว่าปัจจัยที่ทำให้ได้รับรางวัลมาจากการที่ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ปรับปรุงแนวคิดอย่างไม่หยุดนิ่ง และต้องคิดล้ำหน้าคนอื่นไปสักสองสามก้าวเสมอ
สำหรับปัจจัยความสำเร็จในการบริหารองค์กรจนได้รับรางวัลดังกล่าวมาจากการมีแนวคิดที่ก้าวไกลกว่าคู่แข่งเสมอ ป้องกันความเสี่ยงของธนาคาร และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้นำสมัย เพื่อให้ธนาคารคงความเป็นผู้นำ สร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของธนาคาร สร้างรายได้มาทดแทน Banking Business แบบเดิม ตลอดจนสร้างคนรุ่นใหม่มาดูแล New Business Model
กว่า 4 ปี ที่เข้ามาบริหารได้พยายามปรับปรุงแนวคิดอย่างไม่หยุดนิ่ง จนสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้มีภาพลักษณ์ใหม่ที่มีความทันสมัยมากขึ้น และดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง เป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของนักการเงินที่ตรงตามเกณฑ์การพิจารณารางวัลดังกล่าว
นอกจากนี้ธนาคารออมสินยังได้รับอีก 5 รางวัล ได้แก่
- รางวัลธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2562 Best Retail Bank of the Year 2019 โดยธนาคารได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 4
- รางวัลธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านเงินฝาก 2562
- รางวัลธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี 2562
- รางวัลบูธสวยงามยอดเยี่ยมประเภทพื้นที่ขนาด 850-1000 ตร.ม.
- รางวัลบูธสวยงามยอดเยี่ยมประเภทพื้นที่ขนาด 200-220 ตร.ม.
อย่างไรก็ตามในปี 2562 ธนาคารออมสินขับเคลื่อนด้วยค่านิยมองค์กร GSB WAY 2019: Drive Success with Highest Performance Delivered เพื่อขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จแบบไม่หยุดยั้งพร้อมดูแลลูกค้ามากกว่าใคร ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าฐานรากและนโยบายรัฐ โดยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในการใช้บริการและทำธุรกรรมกับธนาคารออมสิน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 Banking
1.Traditional Bankingให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านสาขาธนาคารในรูปแบบปกติให้เติบโต โดยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ มีประสิทธิภาพ เพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย และลดปริมาณการทำธุรกรรมบนเคาน์เตอร์ไปสู่อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นโดยปัจจุบันธนาคารออมสินมีการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถึง 83% ของธุรกรรมทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ว่า ในปี 2562 จะผลักดันให้เกิดการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ 80%
2.Digital Bankingพัฒนาให้มีบริการที่รวดเร็วและทันสมัย พร้อมสร้างความสะดวกสบายบน Digital Platform ซึ่งปัจจุบัน Digital Banking ของธนาคารออมสิน สามารถรองรับทุกผลิตภัณฑ์และบริการได้เทียบเคียงธนาคารพาณิชย์
3.Social Banking เพื่อตอบแทนคืนสู่สังคม ผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความรู้และศักยภาพ สร้างความเข้มแข็งแก่ประชาชนฐานราก และยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับกลุ่มเด็ก เยาวชน ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และชุมชน ให้เกิดความยั่งยืนแก่สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
นายชาติชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เราทำธนาคารเพื่อสังคมอย่างเด่นชัดกว่าทุกยุคทุกสมัยที่เกิดขึ้นในธนาคารออมสิน มีสาขาที่เป็น Social Branches โดยเบื้องต้นจะมี 100 แห่ง ซึ่งเป็นสาขากลุ่มผู้มีรายได้น้อยอยู่เยอะ โดย Social Banking จะทำกิจการเพื่อสังคม สนองนโยบายรัฐบาล ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนบ้าง แต่ก็สามารถแยกบัญชีได้ชัดเจนว่าที่ขาดทุนเพราะทำเพื่อสังคม ดังนั้น การบริหารจัดการจึงชัดเจน
นอกจากยุทธศาสตร์ 3 Banking แล้วธนาคารออมสินยังมี นโยบายการจัดโครงการและกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม และกำลังเดินไปสู่ยุค Human Spirit มีบทบาทมากกว่าการเป็นธนาคาร หรือเป็นธนาคารเพื่อสังคม รวมถึงดำเนินงานโดยดูแลเรื่อง Governance Risk Compliance เพื่อให้เป็นองค์กรที่มี คุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล