ซีพีแรม เปิดยุทธศาสตร์พัฒนาสินค้า-นวัตกรรมใหม่ปี 63 โชว์ผลงานเด่น 4รางวัล “Thailand Kaizen Award 2020”
ซีพีแรมจัดกลยุทธ์พัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ ชูกลุ่มอาหาร local product และรุกแผนเพอร์ซันนอลไลซ์มากขึ้น ส่วนการผลิตขยายโรงงานสู่ภูมิภาคมากขึ้น มั่นปี 2563 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตกว่า 22,570 ล้านบาท ด้านผลงานเด่นคว้า 4 รางวัล Thailand Kaizen Award 2020 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานสู่มาตรฐานโลก
นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ในเครือบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันจากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของสังคมเมืองและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ทำให้อาหารพร้อมทานประเภทต่าง ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกและรวดเร็วได้ และส่งผลให้ภาพรวมตลาดอาหารพร้อมประทาน หรือที่เรียกว่าข้าวกล่องเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10 เปอร์เซ็นต์และคาดว่าตลาดนี้จะโตขึ้นทุก ๆ ปี
เช่นเดียวกับซีพีแรม ที่มีผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานที่หลากหลาย มีทั้งอาหารพร้อมรับประทานและเบเกอรี่มากกว่า 1,000 เอสเคยู ซึ่งสามารถช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2562 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์หรือมีรายได้ 19,922 ล้านบาทถือว่าใกล้เคียงจากปี 2561 ที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 18,000 ล้านบาท โดยมีเมนูขายดีหลัก ๆ ได้แก่ ข้าวกะเพราหมู ข้าวกะเพราไก่ ข้าวผัดปู และผัดซีอิ๊วหมู อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีนโยบายที่จะต้องเร่งปรับตัว และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีหลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์และทิศทางของซีพีแรมในปี 2563 หลัก ๆ จะมุ่งไปที่การพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ให้หลากหลาย โดยเฉพาะธุรกิจอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทาน ชูจุดเด่นเรื่องความสด ใหม่ อร่อย โดยมีแผนจะเพิ่มเมนูอาหารอีกประมาณ 70-75 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยกลุ่มอาหาร local product หรืออาหารท้องถิ่น เพิ่มขึ้น 25-30 เปอร์เซ็นต์ เช่น อาหารประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เมนูลาบหมูและก๋วยจั๊บญวน หรือภาคเหนือ มีเมนูข้าวผัดผักเชียงดา หรืออาหารประจำภาคใต้ เมนูข้าวผัดใบเหลียงผัดไข่ และข้าวไก่ผัดพริกแกงใต้ เป็นต้น
“จะว่าไปแล้วการออกเมนูต่าง ๆ ขึ้นมาดังกล่าว เราไม่ได้เข้าไปแข่งกับอาหารพื้นเมือง เพราะถึงอย่างไรอาหารพื้นเมืองก็มีความหลากหลายกว่า แต่การที่ซีพีแรมทำอาหารประจำภาคขึ้นมา ก็เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในเวลาดึก ช่วงที่ร้านค้าต่าง ๆ ปิดแล้ว”
นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมจะใช้งบฯ 1 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย หรือประมาณ 120-200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ ยกระดับองค์กร ซีพีแรม 4.0 และให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการบริโภคอาหารมีความหลากหลายรวมถึงการนำเทคโนโลยีการนำหุ่นยนต์มาใช้ในการผลิตในโรงงาน
นายวิเศษ กล่าวต่อว่า ซีพีแรมจะเน้นกลยุทธ์เพอร์ซันนอลไลซ์ ที่ลงลึกและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ได้แก่ อาหารสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่มสำหรับผู้สูงอายุ เช่น เมนูข้าวต้ม ชูจุดเด่น คือ เคี้ยวแหลกง่าย ดูดซึมได้ดี ได้เริ่มวางขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเมื่อปลายปีที่ืีผ่านมา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรไทยที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยจะพิจารณาทั้งความต้องการของสินค้าและช่องทางจำหน่าย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
และอีกด้านหนึ่งก็จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มเด็ก อาทิ เมนูเบบี้ฟู้ด เจาะกลุ่มเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ รวมถึงอาหารสำหรับผู้ป่วย หรือมีโรคประจำตัว ที่ต้องการอาหารพิเศษ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ต้องการอาหารที่หวานน้อย เป็นต้น รวมทั้งมีแผนจะพัฒนาเมนูใหม่ ๆ เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด
ด้านการผลิตปัจจุบันซีพีแรมได้ขยายโรงงานไปในภูมิภาคมากขึ้น โดยมีโรงงานทั้งหมด 7 แห่ง ประกอบด้วย โรงงานที่กรุงเทพฯ ลำพูน ขอนแก่น ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ปทุมธานี ซึ่งทำให้สามารถรองรับความต้องการและกระจายไปถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว แต่ละแห่งสามารถผลิตได้ทั้งอาหารพร้อมรับประทานแช่เย็นพร้อมกันนี้ มีแผนจะขยายช่องทางออกไปยังตลาดใหม่ ๆ อาทิ ร้านอาหารและภัตตาคาร ตลอดจนช่องทางจำหน่ายแบบตู้กดในคอนโดมิเนียม เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกและมีพื้นที่ปรุงอาหารจำกัด
“ปีนี้เราตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ หรือมียอดขายประมาณ 22,570 ล้านบาท โดยหลัก ๆ จะมาจากกลุุ่มอาหารแช่แข็งและอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทาน ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ และอีก 40 เปอร์เซ็นต์มาจากเบเกอรี่ และเชื่อมั่นว่าการพัฒนาเมนูเฉพาะกลุ่มหรือเมนูใหม่ ๆ จะทำให้สามารถสร้างยอดขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”
ด้านผลงานคุณภาพล่าสุดบริษัทฯซีพีแรม คว้า 4 รางวัล Thailand Kaizen Award 2020 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานสู่มาตรฐานโลกซึ่งเป็นรางวัลความคิดสร้างสรรค์ ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืน โดยได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัล Silver ประเภท Kaizen Suggestion System ผลงาน เขม่าจ้าฉันลาก่อน จาก บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลาดหลุมแก้ว) รางวัล Gold ประเภท Automation Kaizen ผลงาน เครื่องปิดฝาถ้วยกลม ทะยอยปิดฝา จาก บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ชลบุรี)รางวัล Bronze ประเภท Genba Kaizen ผลงาน ปรับเปลี่ยน ไม่ปีนป่าย จาก บริษัท ซีพีแรม จำกัด (สุราษฎร์ธานี) รางวัล Silver ประเภท Project Kaizen ผลงาน เพิ่มประสิทธิภาพการขึ้นรูปสินค้าเค้กโรลครีมสด จาก บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลาดกระบัง)ซีพีแรม (ชลบุรี) สร้างชื่อคว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ในงาน The Prime Minister’s Industry Award 2020 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3