ณญาณี เผือกขำ แม่ทัพใหม่ “กรุงศรีคอนซูมเมอร์” สานงานเก่า ปรับยุทธศาสตร์ใหม่ระยะ 3 ปี ก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 พร้อมปรัมโฉมสำนักงานใหม่
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ หนึ่งในบริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดตัวนางสาวณญาณี เผือกขำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ต่อจาก นายฐากร ปิยะพันธ์ ซึ่งลาออกจากการดำรงตำแหน่ง
นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้เข้ามาสานงานต่อจากนายฐากร อย่างไรก็ตามยังต้องรอให้ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาประกาศเป็นทางการก่อน น่าจะมีผลในเดือนกันยายนนี้ โดยระหว่างนี้ก็ต้องเข้าไปบริหารธุรกิจให้เดินหน้า ซึ่งได้เร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปีข้างหน้า ระหว่างปี 2564-2566
สำหรับภารกิจแรกที่จะดำเนินงานคือการบริหารจัดการคนและการทำงาน เพื่อช่วยลดต้นทุนพนักงานและค่าเช่าสถานที่ โดยจะทดลองจัดกลุ่มพนักงานที่มีอยู่ราว 6,000 คน ออกเป็น 3 กลุ่ม ทำงานภายใต้วิถีชีวิตใหม่หรือ new normal เพราะหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า work from home ไม่ได้ทำให้ผลิตภาพของการทำงาน ของพนักงานลดลง รวมถึงเรื่องของความปลอดภัยของระบบและข้อมูลก็ไม่ได้มีปัญหา
ทั้งนี้การแบ่งพนักงานเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย กลุ่ม A จะเป็นกลุ่มที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ (work from any where) ทั้งที่บ้านและสถานที่อื่น ๆ โดยกลุ่มนี้จะมีความพร้อมของระบบและอุปกรณ์ และประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้ลดลง ซึ่งการแบ่งกลุ่มลักษณะนี้ ยังตอบโจทย์พนักงานในกลุ่ม Gen Y ที่ไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานในออฟฟิศ และสามารถคิดนอกกรอบการทำงานได้ รวมถึงช่วยลดการติดเชื้อของไวรัสโควิด-19 ได้ด้วย กลุ่ม B จะสามารถทำงานได้ทั้งที่บ้านและออฟฟิศ กลุ่มนี้อาจจะสลับเข้าออฟฟิศและทำงานที่บ้าน ส่วนกลุ่ม C จะเป็นกลุ่มที่ยังต้องทำงานในออฟฟิศ โดยทั้ง 3 กลุ่มจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
“การประเมินผลทดสอบ จะมีระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน สิงหาคม-ธันวาคม โดยการวัดผลจะพิสูจน์จากผลการดำเนินงานผ่านผลประกอบการธุรกิจ ผลงานของบุคคล และความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละกลุ่ม”นางสาวณญาณี กล่าว
ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เชื่อว่าการปรับวิธีการทำงานใหม่นี้ จะทำให้ต้นทุนลดลงได้ในอนาคต และบุคลากรจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทเน้นการเพิ่มจำนวนพนักงานอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้เพิ่มผลิตภาพการทำงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ทำงานที่จะลดลงตามจำนวนของพนักงานที่สามารถทำงานที่บ้านหรือที่ไหนก็ตามได้ ซึ่งการจัดกลุ่มทำงาน ถือเป็นการปรับโหมดการทำงานในยุคใหม่ จะทำให้พนักงานลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง ช่วยลดการติดเชื้อ ขณะที่เราเองก็ลดต้นทุนค่าเช่าตึกได้ด้วย
ทั้งนี้ตั้งแต่มีวิกฤตโควิด-19 ยอดการใช้จ่ายหดตัวจนติดลบ โดยเฉพาะหมวดการใช้จ่ายหลักๆ ที่ติดลบ โดยไตรมาส 1 ปีนี้ สายการบินหดตัว 50 เปอร์เซ็นต์ โรงแรมหดตัว 80 เปอร์เซ็นต์ โรงภาพยนตร์หดตัวเกือบ 100เปอร์เซ็นต์ ห้างสรรพสินค้าหดตัว 60 ร้านอาหารหดตัว 70เปอร์เซ็นต์ ทำให้ไตรมาส 3 ปีนี้ ภาพรวมยอดการใช้จ่ายจะติดลบ 30เปอร์เซ็นต์ ส่วนไตรมาส 4 แม้ว่าอาจจะกลับมาเปิดธุรกิจแล้ว แต่น่าจะไม่ดีขึ้นมากนัก เพราะหมวดสายการบินและท่องเที่ยวยังไม่กลับมา