ธนาคารกรุงไทย เดินหน้ายกระดับ Krungthai NEXT ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกบน Cloud Native แบงก์แรกของประเทศไทย ครอบคลุมฟีเจอร์ โอน-เติม-จ่าย ตั้งเป้าสิ้นปี 2564 ยอดผู้ใช้งาน 12 ล้านคน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าผลักดันให้ Krungthai NEXT ก้าวสู่การเป็น The Full-scale Digital Banking ออกจากขีดจำกัดการเป็นเพียงตัวกลางในการทำธุรกรรมทางการเงิน สู่การเป็น Open Platform ที่เปิดให้องค์กรอื่นๆ สามารถเชื่อมต่อระบบในการสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อรองรับทุกกิจกรรมการเงินในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายทอง บิตคอยน์ หรือสินทรัพย์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และมีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมียอดผู้ใช้งาน Krungthai NEXT จำนวน 12 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีผู้ใช้งานกว่า 9 ล้านคน และมียอดธุรกรรมสูงกว่า 6,000 ล้านครั้งในสองปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดตัว Krungthai NEXT
สำหรับ Krungthai NEXT เวอร์ชั่นใหม่ นำเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกทำให้ลูกค้าและประชาชนได้ใช้ชีวิตเก่งขึ้นในแอปเดียว ด้วย Cloud Native ที่มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี 3S อันได้แก่ Scalability – รองรับการทำธุรกรรมการเงินที่พร้อมกันจำนวนมหาศาลในช่วงระยะเวลาเดียวกัน Stability – มีความเสถียรใช้งานได้อย่างลื่นไหล และ Secuirty – มีความปลอดภัยสูงสุดด้วยเทคโนโลยีระดับโลก
นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี AI (Artificial intelligence) สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานผ่าน Smart Transaction ที่เรียนรู้และขึ้นแถบรายการธุรกรรมทางการเงินที่ใช้งานบ่อย Smart Banner ทำหน้าที่แจ้งเตือนรายการสำคัญ เช่น การครบกำหนดชำระค่าเบี้ยประกัน การต่ออายุบัตรเดบิต บัตรเครดิต การแจ้งเตือนวันเกิด เป็นต้น และ Smart Promotion รู้ใจด้วยโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะบุคคล
นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยปรับ User Experience (UX) และ User Interface (UI) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า สามารถเปิดใช้งานด้วย Face Authentication สแกนใบหน้าและบัตรประชาชน เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวตน หมดกังวลเรื่องการลืม Username และ Password เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรืออีเมลเพื่อรับรหัส OTP ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สาขา ใช้งานสนุกขึ้น โดยการตั้งรูปโปรไฟล์ ปรับแต่งหน้าโฮมเพจได้ตามใจ และมีการปรับโฉมธีมสีใหม่อัตโนมัติตามช่วงเวลาหรือเทศกาลสำคัญ
ขณะที่ฟีเจอร์เด่นของ Krungthai NEXT เน้นให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วยจุดแข็งการให้บริการ โอน เติม จ่าย ที่มีเน็ตเวิร์คการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ทั้งช่องทางภาครัฐ และเอกชน เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต บริการรับชำระค่าปรับจราจร และยังครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ทั้ง กิน เที่ยว หรือช้อปปิ้ง