บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดผู้ดำเนินงานธุรกิจรถยนต์ชั้นนำในประเทศ บริษัทมีความมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตรถยนต์ กระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านเครื่องจักร เทคโนโลยีการผลิต รวมถึงฝีมือและทักษะของฝ่ายผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและในระดับโลก
ขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญของการผลิตรถยนต์ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจโรงงานประกอบ รถยนต์แห่งที่สาม ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงนำกระบวนการทำงานและ การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ อาทิ ระบบการพ่นสีที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย
โรงงานทั้ง4แห่ง สามารถผลิตรถยนต์ได้ประมาณ 420,000 คัน ต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น เกิดการจ้างงานพนักงานกว่า 6,000 คน สำหรับปีงบประมาณที่ผ่านมาบริษัทได้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยประมาณ 356,000 คัน
สำหรับตลาดส่งออกที่สำคัญของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้แก่ สหภาพยุโรป คิดเป็นสัดส่วน 28 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชีย 25 เปอร์เซ็นต์ อเมริกา 21 เปอร์เซ็นต์ โอเชียเนีย 12เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ 14 เปอร์เซ็นต์
เมื่อไม่นานมานี้บริษัทประกาศความสำเร็จโดยการคว้า 4 รางวัล บนเวทีรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2017ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัท กรังปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สำหรับ 4 รางวัลที่มิตซูได้รับใน 4 รุ่น คือ รางวัลที่1 มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นใหม่ ได้รับรางวัล รถกระบะขับขี่ยอดเยี่ยม หรือ Best Riding Quality Pickup รางวัลที่2 มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต รุ่นใหม่ ได้รับรางวัล รถกระบะอเนกประสงค์ที่ล้ำหน้าที่สุด หรือ The Most Advanced PPV รางวัลที่3 มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่ ได้รับรางวัล รถยนต์อีโคคาร์ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม หรือ Best Fuel Economy Eco car ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และรางวัลสุดท้าย มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่ ได้รับรางวัล รถยนต์อีโคคาร์ตัวถัง 4 ประตูยอดเยี่ยม หรือ Best Eco Sedan ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
นายคาร์ลอส กอส์น ประธานบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จำกัด เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นฐานการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งดำเนินการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 120 ประเทศ
ประธานบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จำกัด กล่าวในโอกาสเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังว่าโรงงานแห่งนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และยังกล่าวเพิ่มเติมว่าด้วยเครื่องมือการผลิตที่มีคุณภาพสูงระดับโลก ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีกำลังการผลิตรถยนต์ถึง 424,000 คันต่อปี และในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย โรงงานดังกล่าวจึงเป็นฐานการผลิตระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ในปี2559 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยยอดขายรวมเกือบ 10 ล้านคันต่อปี โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยจะดำเนินการร่วมกันกับพันธมิตรผ่านแนวทางปฎิบัติที่ดีที่สุดในการควบคุมค่าใช้จ่าย การจัดหาชิ้นส่วน และการผลิต ในส่วนของการเติบโตของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มาจากการจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การพัฒนาด้านการขนส่ง การใช้ประโยชน์ในโรงงานและเทคโนโลยีร่วมกัน รวมทั้งการใช้ฐานการผลิตรถยนต์ร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนจำนวนมากของกลุ่มพันธมิตรในด้านการวิจัยและพัฒนา