เดอะมอลล์ ทุ่ม 5 หมื่นล้าน ปั้นย่านการค้า 3 มุมเมือง ยกระดับสู่มหานครระดับโลก ชูรางวัล “Thailand Energy Awards 2022 สู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2065
เดอะมอลล์ กรุ๊ป สร้างย่านการค้า 3 โครงการ 3 มุมเมือง มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท กับโครงการใหม่ “ดิ เอ็มสเฟียร์” จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย “เอ็มดิสทริค” พร้อมปรับโฉม “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ” และ “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค” สู่การเป็นมหานครแห่งใหม่ เข้มคุณภาพคว้า 3 รางวัล จากโครงการ Thailand Energy Awards 2022 ก้าวสู่เป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ปี 2065
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก ประกอบกับยุทธศาสตร์ในการปักหมุดย่านการค้าสำคัญ และวางเป้าหมายในการพัฒนาย่านการค้า ไม่ใช่เพียงพัฒนาโครงการศูนย์การค้า สอดรับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยภาพรวม เช่นเดียวกับเมืองที่เป็นย่านการค้าสำคัญในโลก ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากระบบรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมสำคัญภายในกรุงเทพ ซึ่งจากประสบการณ์การบริหารธุรกิจรีเทล มากกว่า 4 ทศวรรษ บริษัทฯสร้างย่านการค้าจนประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา วันนี้ บริษัทจึงมีความพร้อมในการ พัฒนาย่านการค้าให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น สอดรับกับแผนพัฒนาการขยายตัวของเมือง ผ่าน 3 โครงการศูนย์การค้า ใน 3 มุมเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีความโดดเด่น ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 3 โครงการกว่า 50,000 ล้านบาท
นางสาวศุภลักษณ์กล่าวต่อว่า การเปิดตัวโฉมใหม่ทั้ง 3 โครงการในช่วงเดือนธันวาคมนี้ บริษัทได้ทุ่มงบฯเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมต้อนรับการเปิดโฉมใหม่ ตั้งแต่ ดิ เอ็มสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม. เป็นต้นไป หลังจากนั้น เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม.นี้ ต่อจากนั้นจะเป็น เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 โดยทั้ง 3 โครงการขนาดใหญ่จะเป็นการร่วมสร้างย่านการค้าใน 3 มุมเมือง เพื่อทำให้ภาคธุรกิจค้าปลีก ร่วมขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
สำหรับโครงการใหม่ในอนาคตกับ Bangkok Mall ในย่านบางนา ขนาดพื้นที่รวม 1 ล้าน ตารางเมตรใหญ่สุดในภูมิภาค ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยจะเป็นการสร้างเมืองใหม่ที่แตกต่างจากการสร้างย่านการค้าที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดในช่วงปี 2026-2027 ซึ่งจะเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ได้มีพื้นที่ในการโชว์ศักยภาพของตนเองอีกด้วย
นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็มดิสทริค กล่าวเสริมว่า สำหรับโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ จะมีร้านอาหาร ที่ปิดดึกหลังเที่ยงคืน บางร้านเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และจะเป็นศูนย์รวมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตอบโจทย์แนวคิด SLEEPLESS METROPOLIS หรือ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ผสานกับศักยภาพของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ระดับเวิลด์คลาส ได้แก่ UOB LIVE ซึ่งเป็น WORLD-CLASS ARENA ความจุ 6,000 ที่นั่ง รองรับการจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมระดับโลก สนับสนุนแนวคิดการสร้างศูนย์กลางเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในระดับภูมิภาคอาเซียน (HUB OF ENTERTAINMENT) ตลอดจนการเป็นสถานที่โชว์เคสของสุดยอดนวัตกรรมยนตรกรรมที่เป็น INNOVATIVE ระดับโลก อาทิ Rolls-Royce, BMW รวมถึงความสมบูรณ์แบบของโชว์รูมยนตรกรรม INNOVATIVE ชั้นนำอีกมากมาย
ด้านนางสาวอัญชลี พัฒนอนันต์สุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Leasing & Property บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า สำหรับ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์บางแค ได้ปรับโฉมใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE : ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว” ด้วยมูลค่าลงทุนรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อร่วมสร้างย่านการค้าที่สำคัญของ กทม.ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ทั้งสองศูนย์การค้ามีพื้นที่กว่า 700,000 ตารางเมตร และมีพันธมิตรธุรกิจกว่า 2,000 แบรนด์มาร่วมเปิดให้บริการ ซึ่งได้วางรูปแบบสู่การเป็น “มหัศจรรย์ มหาศาล ที่มหานครแห่งใหม่” ที่จะมาช่วยสร้างปรากฏการณ์ของอาณาจักรศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ
ทางด้านผลงานคุณภาพ The Mall Group คว้า 3 รางวัล จากโครงการ Thailand Energy Awards 2022 ได้แก่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เป็นรางวัลด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารควบคุม นอกจากนี้ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ยังได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมประกวดผลงานในระดับอาเซียน ซึ่งสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในกลุ่ม Energy Management for Building Category (Large Buildings) งาน ASEAN Energy Awards 2022 มาได้ ซึ่งถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่จะช่วยขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงานในระดับองค์กร และระดับประเทศให้สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065