มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ครบรอบปีที่ 21 ยกเครื่องวงการแพทย์ไทย จัดตั้งศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภาคลุ่มน้ำโขง พร้อมให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร และก้าวสู่ความเป็น Smart Hospital
รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เปิดเผยว่า 21 ปีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดตั้ง “ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง” โดยมุ่งหมายให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษาและวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพครบวงจร และเป็นโรงเรียนผลิตแพทย์ชั้นนำ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งเป็นโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ ที่มีมาตรฐานและให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปทุกระดับ โดยมีแนวคิดสำคัญคือ “จะไม่มีผู้ป่วยคนใดที่ถูกปฏิเสธการรักษา เพราะความยากจน” โดยในศูนย์การแพทย์แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สำนักวิชาแพทยศาสตร์ สำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ และศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรแห่งภาคเหนือและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (MFU Wellness Center)
“มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ดำเนินการจัดตั้งสำนักวิชาแพทยศาสตร์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความมุ่งหวังตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะผลิตแพทย์ชั้นนำให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชุมชน ในขณะที่เราดำเนินการสำนักวิชาแพทยศาสตร์นั้น เราก็ได้ดำเนินการจัดสร้างโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขึ้น เพื่อเป็นแหล่งศึกษาวิจัยให้กับสำนักวิชาแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลที่จะสร้างขึ้นนั้น เป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ซึ่งใช้งบดำเนินการก่อสร้างเบื้องต้นกว่า 3 พันล้านบาท”
“ความคาดหวังความมุ่งหวังของมหาวิทยาลัยนั้น มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำให้โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์แห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะฉะนั้นระยะเวลาที่ผ่านมา เรามีความพร้อมทางด้านอาคารสถานที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลานี้การเตรียมการด้านของครุภัณฑ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยนั้น เรากำลังดำเนินการกันอย่างเต็มที่ เราได้เตรียมการทางด้านบุคลากรไว้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทางแพทย์หรือพยาบาล สิ่งสำคัญที่จะทำให้โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ดำเนินการได้ดี ก็คือเรื่องของระบบบริหารจัดการ เราได้เตรียมการจัดระบบบริหารจัดการสมัยใหม่ เพื่อก้าวไปสู่ความเป็น Smart Hospital หรือโรงพยาบาลอัจฉริยะ อยากเรียนว่ามหาวิทยาลัยสนับสนุนเต็มที่ และพร้อมทั้งด้านงบประมาณจากภายในและภายนอก” รศ.ดร.วันชัย กล่าว
ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนั้น ได้จัดสร้างขึ้นมาด้วยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีความรักในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราจึงอยากทำโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์แห่งนี้ให้เป็น Garden Hospital เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้ที่เข้ามารับการรักษาพยาบาลญาติผู้ป่วย รวมทั้งผู้ที่มาเยือนทุกคนนั้นมีความรู้สึกผ่อนคลาย มีความรู้สึกว่าเขาได้มาในสถานที่ ซึ่งจะทำให้เขามีความสุข
นอกจากการบริการทางการแพทย์ปกติแล้ว มหาวิทยาลัยยังได้เตรียมการทางด้านทันตกรรมไว้ให้กับโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์แห่งนี้ด้วย เพราะขณะนี้นั้นเรามีสำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ โดยสำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์นั้น ทำการรักษาดูแลและให้การช่วยเหลือประชาชนทั่วไปทางด้านทันตกรรมอย่างเต็มที่ เราเชื่อว่าด้วยความพร้อมทางด้านการแพทย์และทันตแพทย์อย่างครบวงจรภายใต้แนวคิดดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ ให้การรักษาแบบองค์รวม ให้พี่น้องประชาชนจะได้รับการดูแลอย่างดีด้วยระบบสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง ทั้งแพทย์ พยาบาล กายภาพบำบัด
รศ.ดร.วันชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของ Wellness Center ทางรัฐบาลได้สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยจัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภาคลุ่มน้ำโขง ในปีงบประมาณ 2561 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 1 ปีที่ได้ดำเนินการไปนั้น เรามีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ก็คือการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนให้มีสุขภาพที่ดีทุกช่วงวัย ไร้โรคา สุขภาพดีทุกช่วงวัยนั้นคือจะทำยังไงอย่างไรก็ตามแต่ ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนตั้งแต่วัยแรกเกิด วัยเรียน วัยทำงาน และวัยสูงอายุ ได้มีสุขภาพดี การที่เราทำให้คนมีสุขภาพดีทุกช่วงวัยนั้นเป็นเป้าหมายสูงสุดเพื่อลดผู้ป่วยที่จะเข้ามาในโรงพยาบาล เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่โรงพยาบาลน้อย คุณภาพในการรักษาในโรงพยาบาลก็จะดีขึ้น”
“ Wellness Center ของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนั้น จะเป็นแห่งแรกที่จะดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนในทุกระดับ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีทั้งกำลังกายกำลังใจและสุขภาพจิตที่ดี ทำให้ลดการรักษาพยาบาลลดความเจ็บป่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานให้กับพี่น้องประชาชนในทุกช่วงวัย ได้ดำเนินการโครงการส่งเสริมสุขภาพด้านต่างๆ ไปแล้ว 1 ปี และในปีต่อไปก็จะได้ดำเนินการมากขึ้น และในที่สุดโครงการนี้จะเป็นโครงการทางด้านสุขภาพสำคัญกับสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนในภาคเหนือตอนบนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ด้วยหวังว่าในอนาคตสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ยิ่งในเรื่องของการดูแลสุขภาพ”
อะไรที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาผู้ป่วยและอะไรที่ดีที่สุดสำหรับการสอนนักศึกษาแพทย์ และอะไรที่ดีที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชนชาวไทย เราจะทำและจะทำให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เท่าที่เราสามารถจะทำได้ ขอให้ความมั่นใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า ในไม่ช้าโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย” อธิการบดี มฟล. กล่าว