กสิกรบินตรงสู่แดนอาทิตย์อุทัย เข้ารับรางวัล Best Retail Bank In Thailand 2017 ปิดฉากไตรมาส 1/60 สวยฟันกำไร 10,171 ลบ.
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำ เข้ารับรางวัล Best Retail Bank in Thailand 2017 ด้านสุดยอดธนาคารพาณิชย์ จากงานประกาศรางวัล The International Excellence in Retail Financial Service Awards 2017 จากประเทศญี่ปุ่น
รางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย วารสาร ดิ เอเชียน แบงเกอร์ โดยมีนางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยเป็นตัวแทนธนาคารรับมอบ รางวัลธนาคารพาณิชย์เพื่อลูกค้ารายย่อยที่ดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2560 ซึ่งรางวัลดังกล่าวธนาคารได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 8
สำหรับหลักเกณฑ์พิจารณาการให้รางวัลจะพิจารณาจากธนาคารที่มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง มีการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครองความเป็นผู้นำตลาดของผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลักและช่องทางดิจิทัลแบงก์กิ้งในประเทศไทย ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
นอกจากนี้ในไตรมาสที่ 1/2560 ธนาคารยังได้รับรางวัลอื่นๆอีกด้วย คือ รางวัลธนาคารที่มีความเป็นเลิศด้านการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าบุคคลพิเศษ และ รางวัลสุดยอดกิจกรรมการตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ของบัตรเครดิต จากงานประกาศรางวัล Retail Banker International (RBI) Asia Trailblazer Awards 2017
อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสที่1/2560 ที่ผ่านมา ธนาคารได้สรุปผลการดำเนินงานออกมาเป็นที่เรียบร้อยโดยมีผลกำไรสุทธิ 10,171 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 5.45 เปอร์เซ็นต์
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2560 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส1 ปี 2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 525 ล้านบาท หรือ 5.45 เปอร์เซ็นต์ ผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 888 ล้านบาท หรือ 4.00 เปอร์เซ็นต์ โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ อยู่ที่ระดับ 3.41เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 2,034 ล้านบาท หรือ 11.59 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัย และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนที่ลดลง รวมถึงการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 39.44 เปอร์เซ็นต์
หากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2560 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,171 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 73 ล้านบาท หรือ 0.71 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดจากธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้จำนวน 23,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 2,830 ล้านบาท หรือ 13.77เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 2,382 ล้านบาท หรือ 13.53เปอร์เซ็นต์นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 364 ล้านบาท หรือ 2.40เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ รายได้สุทธิจากการรับประกันภัย และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 39.44 เปอร์เซ็นต์
กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,847,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2559 จำนวน 1,336 ล้านบาท หรือ 0.05 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 3.31 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สิ้นปี 2559 อยู่ที่ระดับ 3.32 เปอร์เซ็นต์