นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 165 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ อายุโครงการ 6 เดือน ลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of China , Agricultural Bank of China ,China Construction Bank ,Industrial and Commercial Bank of CHINA ,ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ19 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of Communications 10เปอร์เซ็นต์ และ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC 14เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ1.35เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินเพื่อหาจังหวะการลงทุนในโอกาสต่อไป
สำหรับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศอายุคงเหลือตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในประเทศ ทำให้อัตราผลตอบแทนได้ปรับตัวลดลงจนอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาและสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี โดยตลาดตอบรับการประมูลพันธบัตรอายุคงเหลือ 30 ปี ค่อนข้างดี โดยมี Bid Coverage Ratio ถึง 3.42 เท่า สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นยอดซื้อสุทธิจำนวน 23,042 ล้านบาท
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนตามความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ตึงเครียด ระหว่างสหรัฐอเมริกากับเกาหลีเหนือ และจากการที่คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ มีความเห็นว่าเฟด ไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ นี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้าหมายและอัตราค่าจ้างยังไม่เพิ่มมากนัก โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. มาอยู่ที่ 1.29 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 8 bps. มาอยู่ที่ 1.74 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps.มาอยู่ที่ 2.19 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี
” ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ” นางชวินดา กล่าว