นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีแผนดำเนินงานลงงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา Solar Roof
ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นถึงการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งปัจจัยการใช้ไฟที่มากขึ้นและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งของภาคเอกชนในการร่วมลดการใช้พลังงานที่ยังผลให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศจะทำให้อากาศแปรปรวนส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของทุกคนจึงเป็นที่มาของการสร้างพลังงานสะอาดทดแทนด้วยการดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Roof หรือ ระบบเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าบนหลังคา
Solar Roof เป็นการใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาที่พักอาศัยหรืออาคารต่างๆรับพลังงานแสงเข้ามาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสตรง ก่อนส่งไปยังเครื่องแปลงไฟ เพื่อเปลี่ยนจากไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ แล้วนำพลังงานไฟฟ้าที่ได้ไปใช้งานต่อไป โดยวางแผนติดตั้งประเดิมที่โรงงาน 2 แห่ง ได้แก่ มหาชัย จ.สมุทรสาคร และที่ จ.ระยอง รวมถึงสโตร์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ อีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาราชพฤกษ์, สาขาพัทยา, สาขาบางนา, สาขาพระราม 2 โดยได้ตรวจสอบแล้วว่า ทุกแห่งนั้น มียอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเฉลี่ยต่อปี ราว 264 ล้านบาท
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการประเมินงบประมาณจากการใช้ไฟฟ้าของบริษัทและบริษัทในเครือถือเป็นยอดที่ค่อนข้างสูงแม้จะมีการรณรงค์ประหยัดไฟโดยใช้เท่าที่จำเป็น แต่ปัจจุบันงบการใช้จ่ายไฟยังคงสูงอยู่จึงได้ทำแผนการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการใช้ไฟฟ้าแบบระยะยาว โดยเลือกติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนพลังงานแสงแดดให้เป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งหลายประเทศนิยมใช้ ทั้งอเมริกา ยุโรป เพราะเป็นพลังงานธรรมชาติที่สะอาดและประหยัดด้วย
อย่างไรก็ตามบริษัทได้รับการสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนจากBOI ซึ่งสามารถนำมาลดหย่อนภาษี ได้ 88 ล้านบาท (ภายใน 3 ปี) โดยได้เลือกใช้บริการของบริษัทที่ได้รับมาตรฐานสากลซึ่งป็นบริษัทผู้บุกเบิกธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม
ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนครั้งนี้จะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าและประหยัดเงินได้อย่างมากในระยะยาว โดยเฉพาะส่วนของโรงงานที่มหาชัยและจ.ระยอง ด้วยกระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์แต่ละขั้นตอนที่จะได้เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นต้องอาศัยเครื่องจักรเป็นหลักซึ่งต้องใช้กระแสไฟมากทั้งเครื่องตัดไม้-เจาะไม้,เครื่องติดขอบเฟอร์นิเจอร์,เครื่องดูดฝุ่นจากไม้,เครื่องหลอมเหล็กรวมถึงเครื่องตัดและเย็บเฟอร์นิเจอร์รวมถึงหน้าร้านที่เป็นรูปแบบสโตร์สแตนอโลนของเราที่นอกจากการใช้ไฟฟ้ารูปแบบแสงส่องสว่างแล้วยังมีจุดการใช้ไฟดาวน์ไลท์หรือสปอร์ตไลท์ที่เพิ่มแสงเงาความสวยงามของ Room Setting ตลอดเวลา รวมถึงโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ Power One ก็เช่นกันทั้งการเปิดทีวีตลอดเวลาหรือการเทสเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ประกอบกับรูปแบบโครงสร้างของสโตร์ที่เป็นลักษณะโปร่งหลังคาสูงจึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สถิติการใช้ไฟฟ้าค่อนข้างสูงด้วย
การติดตั้งโซลาร์เซลล์นอกจากจะคำนึงถึงรายจ่ายค่าไฟที่สูงแล้ว ยังต้องมีปัจจัยเอื้อในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ด้วย ทั้งพื้นที่บนหลังคาที่รองรับกับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และเป็นโซนที่สามารถรับแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 34 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ต่อปีโดยจุดคุ้มทุนอยู่ใน ปี2023(6 ปี) และภายใน 10ปี(ปี 2027) เชื่อว่าจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 330 ล้านบาท บวกกับในส่วนของโรงงาน 2 แห่ง ที่ทางภาครัฐช่วยสนับสนุนในเรื่องมาตรการส่งเสริมการลงทุน ก็ทำให้เกิดความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟตก ไฟดับ ในช่วงฤดูร้อนที่มีการจ่ายไฟของการไฟฟ้าได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานไฟภาครัฐทางอ้อมด้วย