PSH กางแผนลุย 68 โครงการ เน้นโครงการขนาดใหญ่เจาะตลาดกลาง – บน จับธุรกิจใหม่สร้างโรงพยาบาลวิมุตติคาดเปิดบริการได้ปี 2563
บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (PSH) เผยปี 2562 เปิดโครงการใหม่ 68 โครงการ เตรียมนำแบรนด์ IVY กลับมาทำตลาดอีกครั้ง โดยส่วนสัดส่วนโครงการยังคงเป็นทาวน์เฮาส์ 40 เปอร์เซ็นต์ คอนโดมิเนียม 40 เปอร์เซ็นต์ และบ้านเดี่ยว 20 เปอร์เซ็นต์

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ กล่าวว่า โครงการในปี 2562 จะเน้นการเปิดโครงการที่เป็นระดับ Star เป็นหลักที่เป็นกลุ่มระดับราคากลาง-บน และจะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น โครงการคอนโดมิเนียมจะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ เป็นอาคารสูง และอยู่ในทำเลที่ดีตามแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก ระดับราคาคอนโดมิเนียมที่จะเน้นในปี 2562 อยู่ที่ 3-5 ล้านบาท ส่วนการขายจะเน้นการขายที่เร็วมากขึ้น โดยจะดึงดูดการขายในช่วงแรกเข้ามามาก เพื่อทำให้บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) รองรับรายได้ในอนาคตเพิ่มมากขึ้น
สำหรับโครงการที่จะเปิดในปีนี้มีประมาณ 68 โครงการ แต่มูลค่าโครงการจะเพิ่มมากขึ้นจากปีนี้ที่ผ่านมา 6.14 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการพัฒนามีโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น นอกจากนี้กลุ่มพฤกษาจะนำแบรนด์ IVY กลับมาทำตลาดอีกครั้ง ซึ่งเตรียมที่จะเปิดโครงการ IVY 2 โครงการ ในทำเลสุขุมวิท 18 ทำเลรถไฟฟ้าอินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 เฟส ราคาขาย 200,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งจะเริ่มเปิดการขายในช่วงเดือนตุลาคม
ปัจจุบันในกลุ่ม Value ของพฤกษา มีทั้งหมด 4 แบรนด์ ได้แก่ Plum, Privacy, The Tree และ IVY โดยส่วนสัดโครงการของพฤกษา ในปี 2562 จะยังคงเป็นทาวน์เฮาส์ 40 เปอร์เซ็นต์ คอนโดมิเนียม 40เปอร์เซ็นต์ และบ้านเดี่ยว 20 เปอร์เซ็นต์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ มองว่า การพัฒนาโครงการหลังจากนี้เน้นไปที่กลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากขึ้นเนื่องจากในปีนี้สถานการณ์การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะชะลอลงตามภาวะของเศรษฐกิจ ส่งผลต่อความไม่มั่นใจในการลงทุนและลดการลงทุนลง
อย่างไรก็ตามบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนเพียง 20เปอร์เซ็นต์ ส่วนลูกค้าชาวจีนที่มีสัดส่วน 30เปอร์เซ็นต์ โดยในปีนี้อาจจะมีสัดส่วนที่ลดลง จากภาวะของเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และการควบคุมของรัฐบาลจีนที่เข้มงวดมากขึ้นทำให้กลุ่มลูกค้าชาวจีน เริ่มลดการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยลงไป แต่ไม่ได้รับผลกระทบกับบริษัทมากเพราะมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย ซึ่งบริษัทยังคงเน้นการขายให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทย เป็นหลัก

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายการลงทุนในธุรกิจ Health Care ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุตติ และคลินิกบ้านหมอวิมุตติ ซึ่งบริหารงานโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนานเป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจโรงพยาบาลของประเทศไทย ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล ด้วยเจตนารมณ์ที่อยากให้คนไทยได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดีในราคาที่เอื้อมถึงได้ โดยโรงพยาบาลวิมุตติปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563
ทั้งนี้ พฤกษาได้เปิดให้บริการคลินิกบ้านหมอวิมุตติ รังสิต คลอง 3 เป็นโครงการนำร่อง โดยเปิดให้บริการไปแล้วเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาและอาจขยายสาขาบ้านวิมุตติไปตามชุมชนต่างๆขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าหรือสร้างรายได้ประจำเพื่อทำให้พฤกษามีรายได้ที่กระจายหลากหลาย ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน