ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอลฯ รับมาตรฐาน FSSC 22000 การรันตรีคุณภาพกว่า 38 ปี วางงบ 3 พันล้าน ลงเครื่องจักร ขยายกำลังผลิต 1.2 หมื่นล้านขวดต่อปี
บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหรรม จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มชา เป็นต้น จดทะเบียนบริษัทเมื่อ 28 สิงหาคม ปี 2521 ปันจุบันเปิดดำเนินงานมาแล้วกว่า 38 ปี และได้รับการรับรองมาตรฐาน FSSC22000 หรือFood Safety System Certification ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกวัตถุแต่งกลิ่นรส ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยขั้นสูง ที่ใช้ผลิตเครื่องดื่มในกลุ่มธุรกิจกระทิงแดง และเรดบูล จากบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด
มาตรฐาน FSSC22000 เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร มาตรฐานนี้ได้รับการจัดทำในปี 2547 โดยองค์กร The Foundation for Food Safety Certification เพื่อเป็นมาตรฐานที่สามารถให้การรับรองโรงงานอุตสาหกรรมอาหารได้ โดยมาตรฐานนี้มีพื้นฐานมาจากมาตรฐานสากล ISO22000 มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของอาหาร และ PAS 220 ข้อกำหนดจำเพาะสำหรับการจัดการโปรแกรมพื้นฐาน ของมาตรฐาน ISO 22000 ซึ่งทั้งสองมาตรฐานนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนขยายอาณาจักรเครื่องดื่มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การรุกคืบของ บริษัทสู่อาเซียนได้ไต่ระดับไป เอเชีย ซึ่งต้องใช้พื้นฐานความรู้ความสามารถด้าน ภาษาอังกฤษ การปั้นโมเดล สินค้า สำหรับคนท้องถิ่นในชาตินั้นๆ โดยเฉพาะ ซึ่งจะได้เห็นในปีหน้า จากที่ผ่านมายังเป็นเพียงการส่งสินค้าจากไทยไปทำตลาด
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากเครื่องดื่ม บริษัทยังมีขนมขบเคี้ยวอย่างเมล็ดทานตะวัน ซันสแนค ทำตลาดด้วย และอนาคตเขายังมองหาสินค้าใหม่ที่ สัมพันธ์กับหมวดนี้
“ทั้งหมดนี้วิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงาน เพื่อผลักดันให้บริษัทก้าวไปสู่เป้าหมายใหญ่ และผลักดันให้เติบโตภายในปี 2560 ซึ่งบริษัทตั้งเป้ามีรายได้อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท และในปีนี้คาดว่ามีรายได้ 2.6 หมื่นล้านบาท”
นายสราวุฒิ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตลาดรวมเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ในปี 2559 คาดว่าจะยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยมีอัตราการเติบโตเพียงหลักเดียวเช่นเดิม แต่ในส่วนของ กระทิงแดง มั่นใจว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตลาดต่างประเทศตั้งเป้าว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25 เปอร์เซ็นต์
“ จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยและโลกที่ยังคงมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องทำให้ธุรกิจหลายประเภทจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดโดยเน้นการส่งออกมากขึ้น เช่นเดียวกับบริษัทที่ปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญในการส่งออกด้วยสัดส่วน 70เปอร์เซ็นต์ โดยจะเน้นผลิตภัณฑ์หลักคือเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้แบรนด์ กระทิงแดง ในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น “นายสราวุฒิกล่าว
ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจกระทิงแดงต้องมีการปรับตัวทั้งในส่วนของแผนการตลาดและผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยยังคงให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างแบรนด์และเน้นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่เชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพ ซึ่งในปีนี้ บริษัทมีการลงทุนด้านเครื่องจักรและขยายกำลังการผลิตประมาณ 500 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 รวมมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท โดยมีโรงงานตั้งอยู่บริเวณ ต.บ้านแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี รวมพื้นที่ประมาณ 1 พันไร่ มีกำลังการผลิตประมาณ 1.2 หมื่นล้านขวดต่อปี