การปะปาส่วนภูมิภาคได้รับการรับรองมาตรฐาน GECC รวม 47 แห่งทั่วประเทศ เป็นผลจากการตอบสนองนโยบายรัฐที่มุ่งให้บริการที่เป็นเลิศ ตั้งเป้าพัฒนายกระดับการให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ครบทุกสาขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้น้ำ
นายกฤษฎา ศังขมณี รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า ในปีนี้คณะกรรมการอำนวยการ GECC ได้ประกาศผลการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐาน GECC โดยแบ่งระดับมาตรฐานการให้บริการออกเป็น 3 ระดับ คือ 1.ระดับพื้นฐานมีคะแนนตั้งแต่70 – 79 คะแนน 2.ระดับก้าวหน้ามีคะแนนตั้งแต่80 – 89 คะแนน และ 3.ระดับเป็นเลิศ หรือเหรียญทองมีคะแนนตั้งแต่90 – 100 คะแนน โดยกปภ. ได้รับการรับรองมาตรฐาน GECC รวมทั้งสิ้น 47 แห่ง คือ
ระดับเป็นเลิศ 1 แห่ง จากหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับการรับรองรวม 5 แห่ง ได้แก่ กปภ.สาขาเชียงใหม่ ระดับระดับก้าวหน้า 8 แห่ง จากหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับการรับรองรวม 95 แห่ง ได้แก่ กปภ.สาขาเกาะสมุย สาขาอู่ทอง สาขาพิษณุโลก สาขาสวรรคโลก สาขานครราชสีมา สาขาเดิมบางนางบวช สาขาประจวบคีรีขันธ์ และสาขาสุราษฎร์ธานี ระดับพื้นฐาน 38 แห่ง จากหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับการรับรองรวม 355 แห่ง ได้แก่ กปภ.สาขากำแพงเพชร สาขาชัยนาท สาขาชัยภูมิ สาขาตาก สาขาบุรีรัมย์ สาขาเพชรบูรณ์ สาขาสุรินทร์ สาขาอำนาจเจริญ สาขาอุบลราชธานี สาขากันทรลักษ์ สาขากุมภวาปี สาขาแก้งคร้อ สาขาหนองบัวแดง สาขาขนอม สาขาเขาชัยสน สาขาครบุรี สาขาชุมพวง สาขาโชคชัย สาขาด่านขุนทด สาขาเดชอุดม สาขาตะพานหิน สาขาทุ่งเสลี่ยม สาขาบางสะพาน สาขาบ้านตาขุน สาขาบ้านผือ สาขาสังขะ สาขาปากช่อง สาขาปักธงชัย สาขาพิบูลมังสาหาร สาขาพิมาย สาขารัตนบุรี สาขาระโนด สาขาเลิงนกทา สาขาลำปลายมาศ สาขาเวียงเชียงของ สาขาศีขรภูมิ สาขาสตึก และสาขาสีคิ้ว
นายกฤษฎา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กปภ.ได้รับการรับรองมาตรฐาน GECC เพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งแต่ปี 2559-2563 รวมแล้วจำนวนทั้งสิ้น 168 สาขา จาก 234 สาขาทั่วประเทศ ซึ่ง กปภ.จะมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับการให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ครบทุกสาขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้น้ำต่อไป
ล่าสุดกปภ. ได้ขานรับมติคณะรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อการพัฒนาปี 2563 จำนวน 6 โครงการ วงเงิน 11,451.564 ล้านบาท เพื่อจัดทำแผนงานโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายและแผนการบริหารจัดการลดน้ำสูญเสีย โดยมีพื้นที่ดำเนินการประกอบด้วย 1) กปภ.สาขาเพชรบูรณ์ – หล่มสัก 2) กปภ.สาขาเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 3) กปภ.สาขาสมุทรสาคร – นครปฐม 4) กปภ.สาขาด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และโครงการก่อสร้างปรับปรุงกิจการประปาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 2 สาขา ได้แก่ กปภ.สาขานครศรีธรรมราช (องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ) และ กปภ.สาขานครศรีธรรมราช (เทศบาลตำบลการะเกด) ดำเนินการปรับปรุงระบบประปาทั้งระบบ โดยจะมีการก่อสร้างระบบน้ำดิบ (โรงสูบน้ำแรงต่ำ เครื่องสูบน้ำแรงต่ำ วางท่อน้ำดิบ) ระบบผลิตน้ำประปา (ก่อสร้างระบบผลิตน้ำและถังน้ำใส) ระบบจ่ายน้ำ (ก่อสร้างโรงสูบน้ำแรงสูง วางท่อส่งน้ำ – ท่อจ่ายน้ำ) และดำเนินการบริหารจัดการลดน้ำสูญเสียในระบบผลิตจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบผลิต ระบบส่งน้ำ และระบบจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ที่ประสบปัญหาให้สามารถบริการน้ำประปาแก่ประชาชนได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างพอเพียง อย่างไรก็ตาม เมื่อการลงทุนทั้ง 6 โครงการแล้วเสร็จ สามารถผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้น 216,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมกำหนดเป้าหมายลดปริมาณน้ำสูญเสียไม่เกินร้อยละ 20 และในการดำเนินโครงการนี้ทำให้สามารถรองรับผู้ใช้น้ำได้เพิ่มขึ้น 97,100 ครัวเรือน
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว นับเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค อีกทั้งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ภารกิจของ กปภ. บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “มุ่งสู่องค์กรที่เป็นเลิศและยั่งยืน ด้านการให้บริการและบริหารจัดการน้ำประปา” ดังนั้น หากโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยให้ประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบลและชุมชนโดยรอบในพื้นที่เขตจำหน่ายน้ำของแต่ละโครงการ ได้รับบริการน้ำสะอาดที่มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอสำหรับใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค