บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องดื่มทุ่มงบ 2,000 ล้านยกเครื่อง เดอเบล เสริมแกร่งเทคโนโลยีใหม่ ทีมขาย ศูนย์กระจายสินค้า ตั้งเป้ารายได้ 3 ปี 3 หมื่นล้าน
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มกระทิงแดง เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ TCP ตั้งเป้าผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น 3 เท่า หรือ100,000 ล้านบาทภายในปี 2565 ดังนั้น เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของกลุ่ม TCP บริษัทจึงทุ่มงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ในบริษัท เดอเบล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าในเครือ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการ รองรับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การผลิต การจัดจำหน่าย การขาย และกลยุทธ์ทางการตลาด ตลอดจนคู่ค้าในปัจจุบันและรายใหม่ที่จะมีเพิ่มขึ้นอย่างครบวงจร
ทั้งนี้คาดว่าภายใน 3 ปีรายได้ของบริษัทจะเติบโตขึ้นเป็น 30,000 ล้านบาท เป็นผู้นำตลาดและมีสัดส่วนสินค้าของคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจ TCP เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ จากปัจจุบันมีรายได้ 17,000 ล้านบาท มีสัดส่วนสินค้านอกกลุ่มธุรกิจเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ อาทิ โอวัลติน แบรนด์เจเล่ เมจิกฟาร์ม เบนโตะ กาแฟเพรียว โกปิโก้ ขนมเบง เบง เครื่องดื่มบริ๊งค์ และวิตอะเดย์ ฯลฯ เป็นต้น
นายสุรชัย จงเลิศวราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอเบล จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การลงทุนดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยี ทั้งในด้านการขาย ด้านข้อมูลการตลาด ด้านโลจิสติกส์ และคลังสินค้า เพื่อให้การบริการกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ลดการเสียโอกาสจากการขายสินค้า เพิ่มความรวดเร็วในการนำสินค้าเข้าสู่ร้านค้า รวมถึงนำข้อมูลจากร้านค้ามาช่วยให้เกิดความเข้าใจลูกค้าในแต่ละพื้นที่มากขึ้น เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายและวางแผนกลยุทธ์กับคู่ค้าได้ดียิ่งขึ้น การขยายสาขา เพิ่มศูนย์กระจายสินค้าและทีมขายเพื่อรองรับจำนวนคู่ค้าและประเภทสินค้าที่จะหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมบริหาร และพัฒนาศักยภาพการขายให้กับทีมงาน โดยมีแผนที่จะเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าหลัก 1 แห่ง และสาขาใหม่อีก 5 แห่งในจังหวัดที่มีศักยภาพ พร้อมทีมรถขายอีกกว่า 200 คัน และทีมงานขาย 400 คน เมื่อรวมจำนวนสาขาปัจจุบัน และสาขาใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้เดอเบลมีสำนักงานขายที่มีศูนย์กระจายสินค้าย่อยในตัวรวมทั้งสิ้น 30 แห่ง ตลอดจนการเปิดช่องทางการขายใหม่ คือ ช่องทางตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ และช่องทางออนไลน์ รวมถึงการกระจายสินค้าจากต่างประเทศ และสินค้าของคู่ค้าที่มีศักยภาพไปจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายของกลุ่มธุรกิจ TCP