กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เดินหน้าเปิดโครงการเพิ่มขีดความสามารถการบริหารจัดการโลจิสติกส์ฯปี 2565 ตั้งเป้าช่วยสถานประกอบการ 200 แห่ง ลดต้นทุนให้ได้ 1,200 ล้านบาท
นางสาวชลาริน นิลพิฤกษ์ ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากต้นทุนสินค้า การขนส่ง การสต็อกสินค้า และการบริหารจัดการ ทำให้มีสถานประกอบการหลายราย โดยเฉพาะสถานประกอบการ SMEs เข้ามาขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจกับกองโลจิสติกส์เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมของไทยและบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการ กองโลจิสติกส์ จึงได้เตรียมเปิด“โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม” ปี 2565 ขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการ 200แห่ง เน้นอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอาหารและอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง อุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงาน-เคมีชีวภาพ และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ทั้งผู้ประกอบการขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม และผู้ให้บริการคลังสินค้า ที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
นางสาวชลาริน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดยตั้งแต่ปี 2560 – 2564 กองโลจิสติกส์ได้มีการจัดโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ มากกว่า 1,000 แห่ง มีผู้ประกอบการและบุคลากรร่วมอบรมในโครงการฯกว่า 1,380 ราย สามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์เป็นมูลค่ากว่า 5,364 ล้านบาท
สถานประกอบการที่สนใจลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ เปลี่ยนค่าใช้จ่ายเป็นเงินทุน เปลี่ยนต้นทุนเป็นกำไร สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ กองโลจิสติกส์ ชั้น 4 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 75/6 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0 2430 6875-76 E-mail dol@dip.go.th โดยโครงการจะเริ่มดำเนินการและรับสมัครในเดือนธันวาคม 2564