นายวริศา วรภมร ผู้จัดการแบรนด์ คีลส์ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า คีลส์ได้เข้ามาทำตลาดในไทยได้เพียง 9 ปี ซึ่งถือว่าใหม่สำหรับตลาดผู้บริโภคไทย จึงต้องการสร้างแบรนด์อะแวร์เนสให้แข็งแรงเป็นที่จดจำกับผู้บริโภคในประเทศให้มากขึ้น
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว Mobile Shop ในรูปแบบของรถ 6 ล้อที่ตกแต่งเป็นร้านคีลส์ขนาดย่อม ตระเวนไปจัดกิจกรรม และจำหน่ายสินค้านอกพื้นที่กระจายอยู่หลายพื้นที่ เช่น อาคารสาธร สแควร์, อาคาร ศิรินรัตน์, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์, ศูนย์การค้า เมกาบางนา, ตลาดนัดจตุจักร, ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งต่อยอดมาจากโกลบอลแคมเปญ Kiehl′s Loves Bangkok ที่นำผลิตภัณฑ์ขายดีทั้งหมด 5 รายการ อาทิ อัลตร้า เฟเชียล ครีม, ครีมมี อาย ทรีตเมนท์ วิท อโวคาโด ฯลฯ มาทำแพ็กเกจจิ้งแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น
นายวริศา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เราต้องการให้แบรนด์ได้เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้า เปิดโอกาสให้ทดลอง รับผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง รวมถึงกระตุ้นยอดขายโดยการให้ส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อซื้อจากร้านเคลื่อนที่ โดยไม่รอให้ลูกค้าแวะมายังร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียว
“เพื่อรับกับหน้าขายปลายปี คีลส์ได้เตรียมกิฟต์เซตพิเศษ ที่ศิลปินจากนิวยอร์ก เจเรมีวิลล์ มาช่วยออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ เพื่อความสวยงาม ดูน่าใช้ ร่วมกับการจัดเซตให้มีความหลากหลาย และมีราคาที่คุ้มค่า เช่น การแถมผลิตภัณฑ์ขนาดทดลอง หรือทราเวลไซซ์ ที่เป็นคนละรายการกับสินค้าชิ้นปกติเข้าไป เพื่อให้มีมูลค่าของเซตดังกล่าวมากขึ้น และให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น”
ผู้จัดการแบรนด์ คีลส์ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ทั้งกิจกรรม แคมเปญ สินค้าใหม่ ของคีลส์จะเน้นช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เกือบ 100เปอร์เซ็นต์ อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม บล็อกเกอร์ รวมถึงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของแบรนด์ที่ยังรองรับการสั่งซื้อได้จากทั่วประเทศ เสริมกับช่องทางร้านปกติ ที่ปัจจุบันมีอยู่ 17 สาขาให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังใช้การเปิดพ็อปอัพสโตร์ไปตามโลเกชั่นต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ศึกษาศักยภาพ และกำลังซื้อของพื้นที่นั้นๆ ก่อนตัดสินใจเข้าไปเปิดสาขาเพิ่มเติม เช่น ปัจจุบันได้จัดอยู่ที่เซ็นทรัลขอนแก่น พบว่าเป็นอีกแห่งที่คนมีกำลังซื้อดี ขณะที่ก่อนหน้าได้เข้าไปทดลองเปิดพ็อปอัพ และทำการเปิดสาขาไปแล้วที่ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่
“แม้ราคาของสินค้าจะค่อนข้างสูง เฉลี่ย 2,500 บาทต่อชิ้น แต่ถือว่าเป็นราคาที่เข้าถึงได้เมื่อเทียบกับคู่แข่งต่าง ๆ ในเคาน์เตอร์แบรนด์ และด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่ผิวหน้า ผิวกาย แฮร์แคร์ สินค้าผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก กลายเป็นว่าคีลส์เป็นเสมือนที่ปรึกษามากกว่าผู้ขายสินค้า ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างไปจากแบรนด์อื่น ๆ บวกกับการทำซีอาร์เอ็มเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า เช่น การทำกิจกรรม โปรโมชั่นพิเศษ การสะสมคะแนนแลกกิฟต์เซต การให้ของขวัญในวันเกิด“นายวริศา กล่าวปิดท้าย