บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK) เปิดเผยแผนการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2562เดินหน้าประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้ปี 2562 ไว้ที่ 25,000 – 30,000 ล้านบาท
นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) CK เปิดเผยว่า สำหรับในปี 2562 บริษัทจะยังคงมุ่งไปที่การเตรียมความพร้อมความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ จากการผนึกกำลังของบริษัทต่างๆในเครือซึ่งต่างเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งระบบราง ถนน พลังงานและประปา ประกอบด้วย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน)
บริษัทในเครือสามารถสร้างรายได้และปันผลสม่ำเสมอให้แก่บริษัทถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยบริหารความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ ช.การช่าง อย่างมีเสถียรภาพ ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดจากวงจรธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานครบวงจรระดับภูมิภาคที่พร้อมจะเข้าร่วมประมูลงานโครงการต่างๆ ของภาครัฐทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างที่หลากหลาย ตลอดจนโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมุ่งเน้นงาน โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมที่จะออกประมูล รวมถึงโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1.77 ล้านล้านบาท เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ระหว่างกรุงเทพฯ-นครราชสีมา มูลค่า 179,412 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ มูลค่า 143,000 ล้านบาท โครงการทางสายพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนองมูลค่า 30,437 ล้านบาท
โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงินลงทุน 84,600 ล้านบาท สายบางใหญ่-กาญจนบุรี 55,620 ล้านบาท รถไฟทางคู่เฟส 2 9 เส้นทาง มูลค่ารวม 397,084 ล้านบาท โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 224,544.36 ล้านบาทโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภามูลค่า 200,000 ล้านบาทเป็นต้น
สำหรับโครงการในต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นโครงการในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน บริษัทจะเน้นในด้านการประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่มีความเสี่ยงน้อยและผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยบริษัทในกลุ่มกำลังดำเนินการศึกษาแนวทางในการลงทุนและ ช.การช่าง มีความพร้อมรับงานก่อสร้าง ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางด่วนย่างกุ้งในประเทศเมียนม่าร์ มูลค่า 400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และ โครงการพัฒนาระบบน้ำประปาในประเทศศรีลังกา รวมถึงโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว ซึ่งบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กำลังเจรจากับรัฐบาลลาว ซึ่งคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าเร็วๆ นี้
ช่วงที่ผ่านมา บริษัทยังได้รับการปรับอันดับเครดิตจากทริสเรตติ้งเพิ่มเป็น เป็น A จาก A- แนวโน้ม Stable สะท้อนความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ขยายลงทุนในกลุ่มบริษัท หนุนรายได้และผลตอบแทนที่ดี ลดความเสี่ยงความผันผวนอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง ด้านหนี้สินลดลง
ขณะเดียวกันได้เข้ารับรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืน Thailand Sustainability Investment (THSI) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยอยู่ในเกณฑ์ดีเลิศ เป็นที่ 4 ติดต่อกัน และยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทรางวัลบริษัทจดทะเบียนนักลงทุนสัมพันธ์ในงาน SET Awards ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและวารสารการเงินธนาคาร ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งการันตีถึงความเชื่อมั่นที่ตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุนมีให้กับ ช.การช่าง สำหรับโครงการต่างๆ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง มีความคืบหน้าทุกโครงการ เช่น โครงการเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว มูลค่า 135,000 ล้านบาท มีความคืบหน้ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562, โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ส่วนต่อขยาย) สัญญา 2 มีความคืบหน้า 99 เปอร์เซ็นต์,โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ส่วนต่อขยาย) สัญญาที่ 6 มีความคืบหน้า 60เปอร์เซ็นต์,โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) สัญญาที่ 1, 2 และ 5 มีความคืบหน้า 20 เปอร์เซ็นต์