กรมท่าอากาศยานต้อนรับนายทวี เกศิสำอาง อดีตรองอธิบดีกรมทางหลวง ซึ่งย้ายเข้ามาดำรงตำแหน่งกรมท่าอากาศยานคนใหม่ เผยปี 63 เตรียมลุยแผนพัฒนาสนามบินภูมิภาค 27,000 ล้าน และเปิดประมูลขยายสนามบินภายใน 2 เดือน
นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.)เปิดเผยว่าการแผนลงทุนพัฒนาสนามบินภูมิภาคในปี 2563 วงเงินประมาณ 5,800 ล้านบาทนั้นจะมีการเริ่มทยอยเปิดประมูลช่วงต้นปี 2563 ได้แก่ โครงการทางขับคู่ขนานรันเวย์ สนามบินกระบี่ วงเงิน 1,350 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ สนามบินนราธิวาส วงเงิน 800 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่สนามบินบุรีรัมย์ วงเงิน 775 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างลานจอดเครื่องบินเพิ่มเติม สนามบินสุราษฎร์ธานี วงเงิน 500 ล้านบาท และโครงการขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินสุราษฎร์ธานี วงเงิน 200 ล้านบาท เป็นต้น รวมถึงยังมีแผนเร่งรัดแผนก่อสร้างสนามบินใหม่ให้เสร็จตามเป้าหมายอย่างสนามบินเบตง ที่มีกำหนดเปิดใช้กลางปี 2563 และแผนขยายและปรับปรุงสนามบินเดิมทั่วประเทศที่มีความล่าช้าในงานก่อสร้าง
ทั้งนี้สำหรับแผนลงทุนของกรมท่าอากาศยานในระยะ 5 ปีระหว่างปี 2561-ปี 2565 มีแผนลงทุนรวมกันถึง 27,248 ล้านบาท เป็นการปรับปรุงทั่วประเทศ 17 สนามบิน ได้แก่ 1.ภาคเหนือ 2,529 ล้านบาท ที่ จ.ลำปาง, แพร่, แม่สอด จ.ตาก 2.ภาคอีสาน 4,692 ล้านบาท ที่ จ.เลย, สกลนคร, อุดรธานี, อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, บุรีรัมย์ และ 3.ภาคใต้ 20,027 ล้านบาท ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, กระบี่, ตรัง, นราธิวาส และเบตง จ.ยะลา ขณะที่แผนลงทุนปรับปรุงสนามบินระยะที่ 2 ระหว่างปี 2566-2570 อยู่ที่ ) วงเงิน 7,259 ล้านบาท ปรับปรุง 8 สนามบิน อาทิ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จ.แพร่ จ.สกลนคร เป็นต้น
สำหรับการโอน 4 สนามบิน ได้แก่ กระบี่ อุดรธานี ตาก บุรีรัมย์ ให้กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) นั้นนายถาวร เสนเนียมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะกำกับดูแล ทย. ได้มีนโยบายให้ประมูลแบบเปิดกว้างให้เอกชนทุกรายสามารถแข่งขันการยื่นข้อเสนอนั้น ก็ยืนยันว่าจะต้องใช้แนวทางที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งการเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนาสนามบินนั้นมีมากมายหลายวิธีไม่ได้จำกัดรูปแบบ ส่วนการรับมอบนโยบายที่ได้รับจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนั้นเป็นนโยบายการขยายรันเวย์สนามบินภูมิภาค 38 แห่งทั่วประเทศจากเดิม 2,100 เมตร เป็น 2,400 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ตามมาตรฐานการบินสากล ซึ่งจะเร่งทำการศึกษาความเหมาะสมของแต่ละสนามบินเพื่อเริ่มทยอยดำเนินการและจัดของบประมาณต่อไป นอกจากนี้จะมีการเปิดรับฟังทุกข้อปัญหาของการทำงานภายในกรมท่าอากาศยาน เพื่อร่วมกันเดินหน้าองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
เปิดวิสัยทัศน์อธิบดีกรมท่าอากาศยานคนใหม่
นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน ปัจจุบันอายุ 58 ปี มีคิวเกษียณในปี 2564 จบวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโทวิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มีเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นผู้บริหารระดับสูงหลายคน ทั้งส่วนราชการและบริษัทเอกชน
เริ่มรับราชการในปี 2526 ที่กรมทางหลวง กองวางแผน ตำแหน่งวิศวกรโยธา จากนั้นเติบโตตามสายงานทั้งนายช่างแขวงขอนแก่น ผู้อำนวยการแขวงชัยภูมิ รองผู้อำนวยการแขวงนครราชสีมา เพชรบูรณ์ และในปี 2559 ขึ้นรองอธิบดีฝ่ายบริหาร และได้รับคัดเลือกเป็นอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ปี 62ที่ผ่านมา
“การที่ตัดสินใจลงสมัครคัดเลือก เพราะโดยส่วนตัวก็มีความรู้งานทางอากาศอยู่บ้าง และงานกรมท่าอากาศยานในสเต็ปต่อไป จะเป็นเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินภูมิภาคที่ดูแล 29 แห่ง ก็ใช้ประสบการณ์จากกรมทางหลวงที่ผ่านมาไปบริหารจัดการได้”
อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ขณะนี้เร่งจัดทำแผนโครงการเก่าและโครงการใหม่ มาเพื่อลำดับความสำคัญ เช่น งานเก่าที่ทำสัญญาก่อสร้างอยู่ติดปัญหาอะไร จะเร่งให้เร็วขึ้น ส่วนงานใหม่ก็ต้องเตรียมพร้อม หลังที่กรรมาธิการผ่านวาระ 2 แล้ว จะต้องเตรียมออกประกาศทีโออาร์เปิดประมูล เช่น ออกแบบเสร็จหรือยัง งานโครงการใหม่ คาดว่ากรมจะได้งบประมาณ 6,000 ล้านบาท เช่น ขยายสนามบินกระบี่ บุรีรัมย์ ลำปาง สุราษฎร์ธานี นราธิวาส หัวหิน เป็นต้น ในส่วนของสนามบินนครปฐม ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษารูปแบบการลงทุน ว่าแบบไหนถึงจะคุ้ม เช่น รูปแบบ PPP จะให้เอกชนรับสัมปทานหรือจ้างบริหาร จะใช้เวลาอีกพักใหญ่