บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.(AOT) ผู้ดำเนินงานส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดในปีนี้บริษัทได้รับรางวัล Thailand’s Top Corporate Brand Value 2017 สูงสุดในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ประจำปี 2560 การประเมินของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับรางวัลดังกล่าว เป็นรางวัลที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดในปีนี้ โดยมีมูลค่ารวม 309,111 ล้านบาท โดยมูลค่าแบรนด์มิใช่ประเมินจากตัวแปรเชิงพาณิชย์ แต่หากยังประเมินจากปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญอื่น รวมถึงธรรมาภิบาลขององค์กร
ในส่วนของการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 นายสัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการก่อสร้าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 เล่าถึงความคืบหน้าของโครงการว่า ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 3 สัญญา จากทั้งหมด 7 สัญญา คือ
1.งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 รองรับหลุมจอดประชิดอาคาร จำนวน 28 หลุมจอด และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ เป็นงานโครงสร้างและงานระบบหลัก 2.งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ 3.งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้เพิ่มอีก 15 ล้านคน/ปี อาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก 4. งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบน้ำเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศเชื่อมเข้าสู่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ระบบขนส่งผู้โดยสาร 5. งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ 6.งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด 7.งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
“พื้นที่ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 คืบหน้าแล้ว 38 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขุดดินเพื่อเตรียมสร้างโครงสร้างใต้ดินลึกถึง 12 เมตร ซึ่งต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ยืนยันว่าว่าได้มีการเพิ่มเครื่องจักรและคนงานให้มากขึ้น”
ขณะเดียวกัน ทอท.มีแผนงานอีก 4 สัญญาในปี 2560 ประกอบด้วย 1.งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 (ชั้น2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ 2.งานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก 3.งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ 4.งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด ส่วนงานจ้างก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก จำเป็นต้องรอความชัดเจนของแผนการก่อสร้างเฟส 3 ที่จะพิจารณาดำเนินการในเร็วๆนี้ เนื่องจากมีพื้นที่บางส่วนเชื่อมต่อกัน
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยว่า เชื่อมั่นว่าการก่อสร้างโครงการทั้ง 7 สัญญาจะแล้วเสร็จตามแผนในเดือน พฤศจิกายน ปี 2562 เมื่อการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 แล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 15 ล้านคน จาก 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคน ทันที แต่เนื่องจากขณะนี้จำนวนผู้โดยสารใกล้จะเต็มขีดความสามารถในเฟส 2 แล้ว จึงต้องเร่งรัดการดำเนินการใน เฟส 3 ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้แบ่งแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิออกเป็น 5 ระยะ เมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์เต็มขีดความสามารถจะประกอบด้วย ทางวิ่ง 4 เส้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี และมีหลุมจอดอากาศยาน จำนวน 224 หลุมจอด โดยแผนการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และ 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีกำหนดก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2562 ส่วนทางวิ่งเส้นที่ 4 มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2566