ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มกราคม ปี 2488 มีสำนักงานใหญ่แห่งแรกในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้ก่อตั้งสำนักงานในกรุงเทพมหานคร ณ ถนนราชวงศ์ และย้ายสำนักงานใหญ่มาตั้งอยู่ที่ถนนอนุวงศ์และถนนลำพูนไชย
ล่าสุดหลังจากได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารกรุงศรีเพลินจิตเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มธนาคารกรุงศรี โดยใช้เป็นสำนักงานศูนย์กลางของกลุ่มงานที่ดูแลลูกค้าธุรกิจของธนาคาร รวมถึงบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ใจกลางย่านธุรกิจ
อาคารแห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็นอาคารสำนักงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความสูง 35 ชั้น บนพื้นที่ 2.84 ไร่ บริเวณหัวมุมสี่แยกถนนเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุ ปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยาทะยอยเข้าไปใช้สถานที่ดังกล่าวแล้ว อย่างเช่น กรุงศรี ออโต้ โดยมี นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ถือฤกษ์ดีนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองสักการะพระพรหมและศาลตายาย ในการย้ายเข้าสำนักงานใหม่ กรุงศรี ออโต้ ณ อาคารกรุงศรี เพลินจิต ทาวเวอร์ ริมสี่แยกเพลินจิต
อย่างไรก็ตามธนาคารได้วางแผนธุรกิจระยะกลางระหว่างปี 2561-2563 ด้วยการผนึกความแข็งแกร่งของบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ป และการผสานพลังศักยภาพเครือข่ายทั่วโลกของ MUFG โดยกรุงศรีจะใช้กลยุทธ์ในการเสริมสร้างและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม เสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรุงศรีประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในการดำเนินตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับแรก ซึ่งรวมถึงการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยที่ 15.6 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิเฉลี่ยที่ 18.3เปอร์เซ็นต์ต่อปี
สำหรับแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ที่ครอบคลุมปี 2561-2563 ถูกกำหนดจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป ผนวกกับความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในปัจจุบัน โดยกรุงศรีจะมุ่งเน้นกลยุทธ์การดำเนินงานสำคัญ 3 ประการ คือ 1. ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด Digital First 2.สร้างประสบการณ์เหนือระดับเพื่อให้ลูกค้าใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลัก และ 3. เสริมสร้างศักยภาพด้านธุรกิจลูกค้า รายย่อยและลูกค้าธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
“ในการส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้ากรุงศรีจะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจทั้งด้านลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ด้วยการริเริ่มโครงการใหม่ๆ อาทิ การปรับโครงสร้างและกระบวนการปฏิบัติงานการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพนักงานรวมทั้งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลและฟินเทคมาใช้เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและรูปแบบการให้บริการทางการเงินสำหรับอนาคต” นายโกโตะกล่าว
ในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 6-8 เปอร์เซ็นต์ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตที่ 5เปอร์เซ็นต์ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ระดับ 3.5-3.7 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5 เปอร์เซ็นต์