ปตท.คว้ารางวัลดีเด่นด้าน CG –CSR/รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมอีก 3 รางวัล เปิดแผนงานระยะ 5 ปี เน้นลงทุนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้แทนขึ้นรับ 3 รางวัลดีเด่น จากนิตยสาร Alpha Southeast Asia ประจำปี 2017 ที่ประเทศสิงคโปร์

สำหรับ 3 รางวัลที่ ปตท.ได้รับในครั้งนี้ คือ  STRONGEST ADHERENCE TO CORPORATE GOVERNANCE,BEST STRATEGIC CORPORATE SOCIAL RESPONSIBILITY และ MOST CONSISTENT DIVIDEND POLICY การได้รับรางวัลครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานด้าน CG และ CSR ที่จริงจังของ ปตท. สอดคล้องกับความพึงพอใจของนักลงทุนในภูมิภาคนี้และเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับแบรนด์ของ ปตท.ในระดับสากลเน้นทิศทางองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศโดยรวม

“เกณฑ์การตัดครั้งนี้มาจากคะแนนโหวตในการสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุน กองทุนบำนาญ และกองทุนป้องกันความเสี่ยงในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 528 คน”

นอกจากนี้บริษัทยังเข้ารับรางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมประจำปี 2560 อีก 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น,รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น และ รางวัลนวัตกรรมดีเด่น ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง โดยมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) นำคณะผู้บริหารเข้ารับรางวัล

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยถึงแผนลงทุนระยะ 5 ปี ระหว่างปี2560-2564 ว่าระยะนี้บริษัทจะเน้นลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ประกอบด้วย โครงการคลังแอลเอ็นจี โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โครงการปรับปรุงโรงกลั่นและปิโตรเคมีและโครงการธุรกิจใหม่ เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม รวมทั้งโครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งได้ลงนาม MOU ร่วมกับ สวทช. และองค์กรสนับสนุน 50 หน่วยงานในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศ

นอกจากการลงทุนแล้วบริษัทยังได้เตรียมความพร้อมด้านงานบริหาร ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจน้ำมันให้แข่งขันได้อย่างเสรี การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจปิโตรเคมีเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ การตั้งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านเทคโนโลยี เพื่อเป็นศูนย์กลางที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร การจัดโครงสร้างธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอดจนจัดโครงสร้าง “กองทุนร่วมลงทุน” (Corporate Venture Capital หรือ CVC) และ ทีมสรรหาธุรกิจใหม่ เพื่อลงทุนต่อยอดธุรกิจในอนาคต รวมทั้งมีการตั้งหน่วยงานกำกับกฎระเบียบองค์กร เพื่อความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และการเตรียมความพร้อมบุคลากรในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เพื่อให้บริษัทเป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจ จึงได้ยกระดับการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านการจัดตั้งธุรกิจเพื่อสังคม โดยองค์กรธุรกิจเพื่อสังคมที่จัดตั้งขึ้นนี้จะดำเนินการแสวงหาการลงทุนที่สามารถพึ่งพาตนเองได้โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ อาทิ เช่น โครงการคาเฟ่ อเมซอนสำหรับผู้ด้อยโอกาส  โครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชนสำหรับร้านคาเฟ่ อเมซอน เครื่องสูบน้ำพลังงานสะอาด ศูนย์พัฒนาศักยภาพเด็กก่อนประถมวัย เป็นต้น

“ปัจจุบัน กลุ่มปตท.มีความพร้อมในการจัดหาเงินลงทุน เพื่อส่งเสริมทิศทางการดำเนินธุรกิจให้เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 77,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28,937 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 59.6 จาก 48,548 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559” นายเทวินทร์ กล่าว