นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า แผนการทำงานเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเร่งขยายตลาดให้กับสินค้าเกษตรของไทย โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้มอบนโยบายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งเดินหน้าลงพื้นที่พบปะ สร้างความรู้ความเข้าใจกับเกษตรกรไทยในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพื่อขยายโอกาสการ ส่งออกสินค้าเกษตรไทยสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ซึ่งมีเอฟทีเอกับไทย และได้ลดเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับการนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว โดยเฉพาะในสินค้าเกษตรจำพวกผัก ผลไม้ ยางพารา มันสำปะหลัง เนื้อสัตว์ และสินค้าประมง เป็นต้น
ขณะที่นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เตรียมส่งเสริมนโยบายรมช.พาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่ สร้างความเข้าใจกับเกษตรกรให้สามารถใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ที่ไทยทำกับ 18 ประเทศ 13 ฉบับ ในปัจจุบัน สร้างแต้มต่อในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะเมื่อประเทศคู่เอฟทีเอยกเลิก หรือลดภาษีศุลกากรที่เก็บจากไทยแล้ว จะทำให้ไทยมีความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันที่ไม่มีเอฟทีเอกับประเทศที่ไทยส่งออก
ปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี เปรู ชิลี และฮ่องกง โดยสินค้าเกษตรของไทยที่การส่งออกขยายตัวในช่วง 9 เดือนแรก ของปี 2562 โดยส่วนหนึ่งมาจากประโยชน์ของเอฟทีเอ ซึ่งสวนกระแสการส่งออกหดตัว เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่าการส่งออก 3,037 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 43เปอร์เซ็นต์ ไก่แปรรูป มูลค่าการส่งออก 1,934 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่าการส่งออก 8,237 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 1เปอร์เซ็นต์