นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 9 เปิดเผยว่า โรงพยาบาลพระราม 9 มียอดผู้ป่วยนอกมารับบริการมากกว่า 400,000 คนต่อปี ถือว่ามีผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้การรองรับผู้ป่วยไม่เพียงพอ โรงพยาบาลจึงจะขยายอาคารใหม่ เพื่อรองรับปริมาณผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยตึกอาคารใหม่ มีเนื้อที่ 3 ไร่ โดยตั้งงบประมาณในการสร้าง 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาสร้าง 5 ปี คาดว่าสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ป่วยนอกและคนไข้ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ โรงพยาบาลพระราม 9 ได้จับมือกับ 9 โรงพยาบาล ส่งต่อผู้ป่วยเปลี่ยนไต นำร่องภาคใต้ พร้อมแผนการรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ารับการรักษา ซึ่งมีโรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ โรงพยาบาลสิโรรส ปัตตานี-โรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรี-โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรี-โรงพยาบาลธนบุรี ชุมพร-โรงพยาบาลปากน้ำโพ-โรงพยาบาลปากน้ำโพ 2 เป็นต้น การส่งต่อผู้ป่วยโรคไตเพื่อขยายโอกาสในการรักษาโดยการเปลี่ยนไตให้เข้าถึงผู้ป่วยมากขึ้น
อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลพระราม 9 ดูแลผู้ป่วยโรคไตมานานถึง 25 ปี ถือว่ามีผู้ป่วยมารักษาโดยการเปลี่ยนไตรวมทั้งสิ้น 760 คน และภายในปีนี้จำนวน 80 คน ซึ่งแยกสัดส่วนผู้ป่วยเปลี่ยนไต เป็นคนไทย 80 เปอร์เซ็นต์ ชาวต่างชาติ 20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นพม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นแถบอาเซียน ซึ่งการรักษาโดยการเปลี่ยนไต ชาวต่างชาติจะแตกต่างจากคนไทย จะรักษาโดยการเปลี่ยนไตได้จากสภากาชาดไทย หรือใน 2 กรณี คือ กรณีที่ญาติพี่น้องบริจาคไตให้กับผู้ป่วย หรือผู้ที่มีความจำนงมาบริจาคไว้ แตกต่างจากชาวต่างชาติจะต้องได้รับไตจากญาติเท่านั้นถึงจะรักษาโดยการเปลี่ยนไตได้ ก่อนรับมารักษา ทางโรงพยาบาลต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด
นายแพทย์เสถียรกล่าวต่อว่า นอกจากโรงพยาบาลพระราม 9 ยังเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมด้านการเปลี่ยนไตที่ได้รับมาตรฐาน JCI และความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยโรคไตที่อยู่ห่างไกล และยังไม่มีทีมแพทย์ที่สามารถเปลี่ยนไตให้กับผู้ป่วยได้ โรงพยาบาลพระราม 9 จึงได้เข้ามาช่วยในความพร้อมเรื่องการรักษา ดูแลผู้ป่วยโรคไต และผู้ป่วยที่อยากรักษาเปลี่ยนไต เรามีทีมแพทย์ดูแล 24 ชั่วโมง ซึ่งมั่นใจว่าผู้ป่วยจะกลับมามีชีวิตใหม่เหมือนเดิม