นายอูโก้ อเลซานโดร ซาฟเวดรา ผู้จัดการทั่วไป มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าการตลาดในครึ่งหลังบริษัทได้กำหนดงบการตลาดไว้ 100 ล้านบาท โดยจะเน้นทำการตลาดในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มคุณแม่ที่ต้องดูแลครอบครัวและเป็นผู้กุมอำนาจการจับจ่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆในบ้าน โดยจะสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ และครอบครัว ที่มีไลฟ์สไตล์เหมาะกับผลิตภัณฑ์ และยังเป็นขวัญใจของกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ
ปัจจุบันเบตาดีนเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลบาดแผล มีส่วนแบ่งทางการตลาด 42 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเร็วๆนี้บริษัทได้เปิดตัวแบรนด์เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ เป็นครั้งแรกที่มีการออกสินค้าในกลุ่มตลาดใหม่เพื่อสุขอนามัยโดยมีช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด โดยวางจำหน่ายในไทยเป็นประเทศแรก เบื้องต้นมีครีมอาบน้ำ โฟมล้างมือ และเจลอนามัย
ผู้จัดการทั่วไป มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทมองเห็นโอกาสจากตลาดครีมอาบน้ำ มูลค่าประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยกลุ่มครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิว มีส่วนแบ่ง 23 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1,300 ล้านบาท ซึ่งตลาดรวมเติบโต 5 เปอร์เซ็นต์ แต่กลุ่มครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิวเติบโตถึง 8 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้เล่นในตลาดอยู่ไม่กี่แบรนด์
ดังนั้นทั้งขนาดของตลาด การเติบโต และจำนวนผู้เล่นในตลาด จึงเป็นปัจจัยหลักที่มองเห็นว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ในตลาดครีมอาบน้ำเพื่อสุขอนามัย
“ตลาดครีมอาบน้ำมีการเติบโตที่น่าสนใจ และมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ไม่มาก จึงเชื่อว่าจะสร้างความหลากหลายให้ผู้บริโภค สินค้ามีคุณค่าที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นชัดเจน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เบตาดีน ต่อยอดจากความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ดูแลบาดแผลสู่เป้าหมายใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย”