“โอสถสภา”ปลื้มรับรางวัลเกียรติยศ “Thailand Top CEO of the Year 2023 ประเภทอุตสาหกรรมการผลิต” ฉลองปีที่ 132 ปรับกลยุทธ์ส่งสินค้ากลุ่มสมุนไพรตรา “กิเลน”ปรับโฉมแพ็กเกจจิ้งดีไซน์สวย ร่วมสมัยสไตล์โมเดิร์นวินเทจลุยตลาดปี 66
นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ได้รับมอบรางวัลเกียรติยศ “Thailand Top CEO of the Year 2023 ประเภทอุตสาหกรรมการผลิต” จัดขึ้นโดยนิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งร่วมกันคัดเลือกผู้นำองค์กรและผู้นำธุรกิจที่โดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม และยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น “สุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี” โดยมี ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัล
นางวรรณิภา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผลิตและจำหน่ายสินค้าหลักๆ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีแบรนด์ M-150 ลิโพวิตันดี ฉลาม โสมอินซัม กับกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์ มี แบรนด์ซีวิท เปปทีน คาลพิสแลคโตะ และสลิมมิ่กลุ่มต่อมา ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล มีแบรนด์เบบี้มายด์ ทเวลฟ์พลัส เอ็กซิท Organik กลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกอม มีแบรนด์โบตัน โอเล่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มียากฤษณากลั่นตรากิเลน น้ำอุทัยทิพย์ ยาธาตุ ๔ ทัมใจ และเครื่องดื่มเห็ดหลินจือสกัด ยี่ซิน
สำหรับปี 2566 ในโอกาสครบรอบ 132 ปี ยักษ์ใหญ่ “โอสถสภา” ได้หยิบกลุ่มสินค้าสมุนไพรตรา “กิเลน” ขึ้นมาเป็นพระเอก เพื่อรุกแนวรบครั้งใหญ่ หลังปีก่อนส่ง เอ็ม-150 กลิ่นเทอร์ปีนจากสมุนไพรเป็น แบรนด์แรก รุกตลาดเครื่องดื่มผสมสมุนไพรเซกเมนต์ใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 4 เท่าในอีก 2 ปีข้างหน้าขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ตรากิเลน ถือเป็นสินค้ายุคแรกนับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจภายใต้ร้านขายยา “เต๊ก เฮง หยู” ย่านสำเพ็ง โดยเฉพาะยากฤษณากลั่น มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการท้องเสียและปวดท้องต่างๆ จนกลายเป็นที่รู้จักกว้างขวาง และนิยมกันทั่วไป รวมถึงนำไปใช้ระหว่างการซ้อมรบของกิจการเสือป่า จนได้รับการแนะนำในพระราชนิพนธ์ “กันป่วย” ของพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทางด้านการตลาดได้ทำการงัดกลยุทธ์พลิกโฉมตรา “กิเลน” ปรับแพ็กเกจจิ้งใหม่ในดีไซน์สวย ร่วมสมัยสไตล์โมเดิร์นวินเทจ โดยดึงคุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ออกแบบโลโก้และแพ็กเกจจิ้งต่างๆ เน้นกลิ่นอายและเอกลักษณ์ของตรากิเลน ผลผลิตจากภูมิปัญญาแพทย์สมุนไพรไทยจีนมากว่าร้อยปีอีกด้วย
“แน่นอนว่า ยากฤษณากลั่น ตรากิเลน มีความขลังและความแข็งแกร่งในตัวแบรนด์ เมื่อบวกกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และสถานการณ์โควิดที่ทำให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพ มีความต้องการสินค้าสมุนไพรที่มีคุณภาพ นั่นจึงเป็นโอกาสของโอสถสภา เร่งการเติบโตของกลุ่มสินค้าสุขภาพผสมสมุนไพรที่ยังมีสัดส่วนยอดขายไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ จากรายได้รวม เมื่อเทียบกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีสัดส่วนมากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์”
ทางด้านภาพรวมกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ มีแนวโน้มขยายตัวดีมาก ซึ่งที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสูตรผสมสมุนไพรของโอสถสภาต่างได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ไม่ว่ายากฤษณากลั่นตรากิเลน น้ำอุทัยทิพย์ ยาธาตุ ๔ ทัมใจ เครื่องดื่มเห็ดหลินจือสกัด ยี่ซิน ซึ่งถือเป็นฐานตั้งต้นนวัตกรรมเหนือคู่แข่ง
นั่นทำให้บริษัทฯมีข้อได้เปรียบในแง่การพัฒนาเครื่องดื่มผสมสมุนไพรที่สอดรับกับกระแสความต้องการของผู้บริโภค และมีคุณสมบัติใหม่ๆ ต่างจากสินค้าอื่นๆ ในตลาด เช่น การเปิดตัวเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยคลายเครียดระหว่างการทำงาน อย่าง เอ็ม-150 กลิ่นเทอร์ปีน เครื่องดื่มบำรุงกำลังผสมกลิ่นเทอร์ปีนจากสมุนไพรแบรนด์แรกในตลาด รวมถึงเอ็ม-150 สูตรกระชายดำผสมน้ำผึ้ง
ดังนั้น แม้ภาพรวมการดำเนินงานล่าสุดระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ที่ผ่านมาของกลุ่มโอสถสภา รายได้จากการขาย 20,833 ล้านบาท มากกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ ยังมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังเป็นหลัก ในฐานะผู้นำตลาด เพราะมีผลิตภัณฑ์หลากหลายแบรนด์และครบทุกเซกเมนต์ และกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนัลดริงก์ที่มีแบรนด์ ‘ซีวิท’ เป็นผู้นำในตลาด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่กำลังมาแรง ทั้งในแง่มูลค่า ฐานลูกค้าและการเติบโต จนมีผู้เล่นหน้าใหม่ระดับบิ๊กกระโดดเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ตลอดเวลา ซึ่งโอสถสภาในฐานะตำนานอันเก่าแก่ถือเป็นหนึ่งผู้นำและคงไม่ยอมสูญเสียโอกาสสร้างฐานรายได้ใหม่แน่นอน.