บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ตอกย้ำ 58 ปี กับความมุ่งมั่นของในการนำเสนอรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดออกสู่ผู้บริโภค
นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในพิธีมอบรางวัลว่า นับว่ารถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ทุกรุ่นประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม โดยสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด และยังงสะท้อนให้เห็นว่าเรากำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องด้วยการจัดจำหน่ายรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการลูกค้าได้อย่างเหมาะสมในแต่ละเซ็กเมนท์
สำหรับในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ได้รับทั้งหมด 5 รางวัล ประกอบด้วย
- มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ (รถอเนกประสงค์เอ็มพีวี เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี ยอดเยี่ยม)
- มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ (รถกระบะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม)
- มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น ใหม่ (รถอเนกประสงค์พีพีวี ขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม)
- มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ (เทคโนโลยีรถยนต์อีโคคาร์ยอดเยี่ยม)
- มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ (รถยนต์อีโคคาร์ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม)
THAILAND CAR OF THE YEAR 2019 จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 เป็นงานทรงเกียรติของค่ายรถยนต์อีกงานหนึ่ง ที่สร้างความภาคภูมิใจให้บริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย โดยมีค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต่างคว้ารางวัลกันมากมาย โดยได้รับเกียรตืจาก นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี
ในปี 2561 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายด้วยยอดจำหน่ายในประเทศรวม 84,560 คัน หรือ เติบโต 21.3 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่8.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์มีการขยายตัวโตถึง 19.5เปอร์เซ็นต์ มียอดขายทั้งสิ้น 1,041,739 คัน
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จของเราในปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยหนึ่งในนั้นคือการนำเสนอรถยนต์ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันที่สุด เทคโนโลยีก้าวล้ำหน้า สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมมีความปลอดภัยและขับสนุกรวมถึงการออกแบบที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าของเรา
ขณะที่การส่งออกมิตซูบิชิมีอัตราการเติบโต 4.2 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็นรถยนต์สำเร็จรูป และรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ มียอดส่งออกรวมทั้งหมด 347,000 คันซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ การส่งออกรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 37 เปอร์เซ็นต์ และมีการผลิตเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญที่ 11.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าด้วยยอดการผลิตทั้งหมด 444,000 คัน
ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่มากกว่า 90,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 9เปอร์เซ็นต์ ซึ่งบริษัทโดยยังคงมุ่งเน้นการให้บริการที่มีมาตรฐานสูงขึ้น เพิ่มความพึงพอใจแก่ลูกค้า พร้อมกันนี้ได้เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปีนี้ไว้ที่ 5 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นเป็นรถโมเดลใหม่ 1 รุ่น และรุ่นพิเศษ จำนวนจำกัดอีก 1 รุ่น
นายโมริคาซุ ชกกิ เผยว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) มุ่งเน้นปัจจัยแห่งความสำเร็จ 3 ด้านอย่างต่อเนื่องทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมการให้ความสำคัญกับลูกค้าและปรับปรุงเครือข่ายผู้จำหน่าย และการเพิ่มทักษะของบุคลากร เพื่อการสร้างความพึงใจสูงสุดแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้ง 223 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะดำเนินการปรับโฉมใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2564
“ส่วนการที่ภาครัฐเตรียมมาตรการในการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดมลพิษค่าฝุ่นควัน ทั้งการปรับมาตรฐานค่าไอเสียเป็นมาตรฐานยูโร 5 รวมถึงผลักดันการใช้น้ำมันดีเซล B20 นั้น มองว่าเป็นสิ่งที่ดี และต้องรีบดำเนินการ โดยในส่วนของมิตซูบิชิพร้อมสนับสนุนภาครัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าอย่างสูงสุด โดยเฉพาะการปรับมาตรฐานค่าไอเสียรถยนต์ เนื่องจากปัจจุบันโรงงานทั้ง 3 แห่งที่แหลมฉบัง กำลังการผลิตมากกว่า 400,000 คันต่อปี ผลิตรถยนต์ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานค่าไอเสียสูงสุดอยู่ที่ ยูโร 6 ส่งออกไป 120 ประเทศทั่วโลก ส่วนการใช้น้ำมันดีเซล B20 เป็นมาตรการที่เน้นในกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ ปัจจุบันรถปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน ยังไม่รองรับการใช้งาน แต่สามารถเพิ่มอุปกรณ์บางรายการ ก็สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน ในอนาคตซึ่งมิตซูบิชิพร้อมสนองตอบกับนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง”